ทุกๆเมืองที่ผมไปเที่ยวมาล้วนแต่มีสีประจำของแต่ละเมือง ตัวอย่างเช่นเมืองมารุโมริจะเป็นสีฟ้า และเมืองซาโอะก็จะเป็นสีขาว แต่ว่ามันยากนักที่จะเลือกสีให้กับเมืองวาตาริ วันนี้มีนักศึกษาจากมหาลัยโทโฮคุมาร่วมทางกับเรา เธอใส่เสื้อสีชมพูและตึกอาคารก็เป็นสีชมพู ผมจึงคิดว่าเมืองนี้ต้องเป็นเมืองสีชมพูแน่ๆ
แต่เธอบอกว่าเธอเลือกสีฟ้าเพราะที่สถานีรถไฟอยู่ใต้ท้องฟ้าสีฟ้า
มีก้อนเมฆจำนวนพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป
และผมก็เปลี่ยนใจอีกครั้งนึงเมื่อไปเจอแมวกำลังยืนเส้นอยู่ใต้แสงอาทิตย์ แววตาของมันสีเหลืองวาว
After walking across the downtown for hours, I realize the truth that Watari might be a little bit too colorful among the colorful towns of South Part of Miyagi. Thus I think it is better for the reader to well decide, what the theme color should be, for this beautiful little town.
บทเพลงสำหรับนักตกปลา
เมืองวาตารินั้นตั้งติดอยู่กับทะเล ดังนั้นอาหารทะเลที่นี่จึงสดมาก วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูการประมูลปลาที่ตลาดปลา
ชาวประมงจะออกเรือประมาณตีสามเพื่อไปจับปลา และการประมูลจะเริ่มเวลา 8 โมง
ทุกๆวันจะมีคนจำนวนมากมาร่วมการประมูล
ปลาที่พึ่งถูกจับมาจากทะเลดูสดน่ากินมากครับ ทำให้รู้สึกหิวอีกครั้ง
ข้างๆก็มีตลาดสดสำหรับซื้อปลา
นับเป็นเรื่องดีที่รู้แหล่งของกินเพิ่มขึ้นอีก
ออนเซ็นติดทะเล Torinoumi เมืองวาตาริ
ออนเซ็นนั้นค่อนข้างหาได้ยากที่เมืองวาตาริ Watari Onsen Torinoumi เป็นหนึ่งในออนเซ็นของเมืองวาตาริที่ผมแนะนำ
โรงแรม Torinoumi เคยเป็นโรงแรมระดับหรูก่อนที่จะเกิดเหตุซึนามิ บริเวณชั้นแรกของโรงแรมอยู่ระหว่างการปรับปรุง แต่ที่ชั้นห้ายังมีบริการบ่อน้ำพุร้อนอยู่ ท่านสามารถชมวิวทะเลระหว่างแช่ออนเซ็นได้ที่นี่
เมื่อมีก่อนมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 150,000 มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ คงเป็นเพราะวิวที่สวยงาม
บริเวณด้านบนยังสามารถเห็นวิวเมืองได้อีกด้วย
บริเวณภายในโรงแรมจะเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงฤดูร้อน
ที่อยู่อยู่ด้านล่าง
ของฝากเมืองวาตาริ Bajo Kamaboko
Kamaboko Bajo เป็นหนึ่งในของฝากชื่อดังจากภูมิภาคโทโฮคุ โดย Kamaboko Bajo มีประวัติอันยาวนานกว่า 100 ปี
คามาโบโกะเป็นอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่งซึ่งทำมาจากปลาซูรูมิ (ลักษณะคล้ายลูกชิ้นปลา) ซึ่งคามาโบโกะของ Bajo นั้นจะมีลักษณะแตกต่างจากยี่ห้ออื่นคือรูปร่างจะเป็นรูปใบไม้ โดยคามาโบโกะที่มีราคาสูงจะทำมาจากปลาหัวหนามและปลาตาเดียว
สามารถนำคามาโบโกะไปปรุงเป็นอาหารชนิดอื่นได้อีก เช่น นำไปทอด นึ่ง รมควัน หรือต้ม
ที่โรงงาน Bajo มีเครื่องมือการผลิตที่ทันสมัยอย่างมาก แต่ก็ยังมีการใช้มือทำสำหรับผลิตภัณฑ์บางอย่าง
โดยมากแล้วคนญี่ปุ่นนิยมทานคามาโบโกะในงานเฉลิมฉลอง คามาโบโกะที่มีสีแดงและสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี นอกจากนี้แล้วยังมีคามาโบโกะสีอื่นๆอีก ซึ่งเหมาะจะเป็นของฝากสำหรับเพื่อนและครอบครัว
ที่อยู่ของโรงงาน Bajo Kamaboko อยู่ด้านล่าง
ร้านเบเกอรี่ Joanna
หลังจากแช่น้ำร้อนและทานคามาโบโกะแล้ว ผมแวะมาที่ร้านเบเกอรี่ Joanna เป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆที่อยู่ในเมืองวาตาริ
สินค้าแนะนำอันดับหนึ่งของร้านนี้คือเค้กคาเวียร์ ซึ่งผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
ภาพเค้กจากร้าน
ร้านแห่งนี้ถูกซ่อมแซมใหม่หลักจากเกิดเหตุซึนามิ
ที่อยู่ของร้านอยู่ด้านล่าง
และผมก็ขอจบการเดินทางของวันนี้แต่เพียงเท่านี้ คุณเลือกสีสำหรับเมืองนี้ได้รึยัง? หากยังตัดสินใจไม่ได้ผมก็ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่เมืองนี้ดู