เมืองมุราตะเป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ มีเอกลักษณ์อยู่ที่ตึกอาคารและถนนคนเดินแบบโบราณ เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทิวเขาซาโอะ
คุณสามารถเห็นวิวภูเขาจากตรงนี้ได้ แม้ว่าจะเดินอยู่ในเมือง
วัด Saian
ผมแวะมาที่วัด Saian โดยบังเอิญ เนื่องจากบริเวณด้านหน้าวัดมีกระจกแก้วสีสวยประดับอยู่ด้านนอก ทำให้ดูสะดุดตา
พอดูแล้วก็ทำให้นึกถึงฉากในภาพยนตร์เรื่อง Spirit Away อีกครั้ง
ภายในวัดเงียบสงบมากครับ
น้ำจับตัวเป็นน้ำแข็งและสะท้อนสีของท้องฟ้าอย่างสวยงาม
มีฟองอากาศเล็กๆอยู่ในบ่อน้ำแข็ง
น่าแปลกใจที่ผมยังได้เห็นใบไม้แดงอีกในฤดูหนาว ที่อยู่ของวัดอยู่ด้านล่าง
โรงผลิตแก้ว Kirlo
เมื่อสองวันก่อนผมได้ไปเดินชมในตัวเมืองมุราตะ ผมสังเกตเห็นงานฝีมือที่ทำมาแก้วแล้วรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากผม เมื่อผมทราบชื่อเจ้าของผลงาน ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปที่โรงผลิตแก้ว Kirlo
ช่างเป่าแก้วที่เป็นเจ้าของผลงานคือคุณ Eiji Shiga คุณ Eiji สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและสตูดิโอของเขามีสีสันเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่างานส่วนมากของเขาจะเป็นแก้วใส แต่รูปร่างแก้วนั้นจะมีลักษณะที่ต่างกันไป
เขามีเตาเผาแก้วของเขาเอง ซึ่งในช่วงฤดูหนาวเขาจะจำมาใช้เป็นเตาผิง
แก้วจะถูกนำมาเผาที่อุณหภูมิ 600 องศา
ภายใต้คำชี้แนะของคุณ Eiji ผมได้มีโอกาสลองทำแก้วด้วยมมือของตัวเอง
ตอนดูเหมือนจะง่าย แต่ก็ยากมากครับ
ผมเดินรอบๆและไปเจองานชิ้นเอกของเขา เปล่งประกายดุจดังเพชรเลยก็ว่าได้
ที่อยู่ของโรงผลิตแก้ว Kirlo อยู่ด้านล่าง
จุดแวะพักชั่วคราวที่เมืองมุราตะ
ที่จุดแวะพักแห่งนี้ ประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์และบ้านพักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งรวมร้านค้า
บนอาคารแห่งนี้สามารถเห็นวิวแบบ 360 องศาของเมืองมุราตะได้
ตัวบันไดมีความเก่าแก่ พอมองดูก็สวยไปอีกแบบ
บริเวณชั้น 2 มีภาพเขียนและตุ๊กตาจัดแสดงอยู่
ที่อยู่ของจุดแวะพักอยู่ด้านล่าง
ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองมุราตะ
ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองมุราตะตั้งอยู่กลางเมืองมุราตะ นอกจากจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวของเมืองแห่งนี้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถมาลองประดิษฐ์งานฝีมือได้ที่นี่อีกด้วย
ในช่วงสุดสัปดาห์ ชาวบ้านในเมืองนี้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ) นิยมมารวมตัวกันที่นี่เพื่อประดิษฐ์งานฝีมือและมาพูดคุยกัน
ผมได้มีโอกาสลองทำเข็มกลัดรูปดอกไม้ สนุกมากครับ
ที่อยู่ของศูนย์การท่องเที่ยวอยู่ด้านล่าง
พิพิธภัณฑ์ Kanesho
ถึงแม้ว่าป้ายของที่นี่จะเขียนว่าเป็น “ร้านค้า” แต่จริงๆแล้วที่นี่คือพิพิธภัณฑ์คครับ
คุณ Onuma Hiroko เกิดที่บ้านหลังนี้ และปัจจุบันบ้านหลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บความทรงจำในอดีตของตระกูล Onuma
จักรเย็บผ้าดูแล้วน่าจะเก่ากว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่ผมอีก
ของเหล่านี้ถูกเก็บสะสมเรื่อยมา และบางอย่างก็มีมูลค่ามากจนประเมิณค่าไม่ได้ คุณ Onuma พยายามที่เก็บรักษาของเหล่านี้เพื่อให้คุณรุ่นหลังได้มาชมกันครับ
สำหรับคุณ Onuma การสะสมของเก่าถือเป็นงานอดิเรกของเธอก็ว่าได้ ของเก่าที่สะสมไว้ไม่ได้มีไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวชมเพียงอย่างเดียว การชื่นชมงานสะสมของเธอเองก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอเหมือนกัน
หนังสือเก่าอายุกว่า 30 ปี
นอกจากนี้แล้วคุณ Onuma ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโบราณอีกด้วย
ที่อยู่ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ด้านล่าง
ย่านร้านค้า Motomachi
จุดเด่นของย่านขายของแห่งนี้คือลักษณะตัวอาคารที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
มีสินค้าต่างๆวางจำหน่ายมากมาย