หากคุณอยากรู้เกี่ยวกับความเก่าแก่ของเมืองนี้ ก็คงต้องลองมาเช็คดูบ้านเรือนอาคารบริเวณนี้ วันนี้ผมมาเดินชมอาคารเก่าของเมืองมารุโมริ เพื่อที่จะเรียนรู้ประวัติของเมืองนี้ให้มากขึ้น
ในรีวิวท่องเที่ยวอันก่อนๆที่ผมลงไว้ ก็มีภาพเมืองที่ผมลงไว้บ้างแล้ว แต่มากี่ครั้งก็ได้ความรู้สึกใหม่ๆตลอด
ผมจึงตัดสินใจลงรูปของเมืองนี้อีกครั้ง และยังตัดสินใจเที่ยวที่เมืองนี้อีกเป็นเวลา 3 วัน
ร้านกาแฟภายในเมือง
หลังจากอยู่ที่เมืองนี้มานานก็รู้สึกว่าอะไรๆก็เป็นสีทองไปหมด
ชมคฤหาสน์ซาอิริ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
คฤหาสน์ซาอิริเคยเป็นโกดังเก็บของและที่ว่าการเมืองในสมัยก่อน แต่ในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองนี้ในอดีต
ทางซ้ายของประตูทางเข้าเป็นโกดังเก็บของเก่า ซึ่งเป็นที่จัดแสดงสิ่งของต่างๆในสมัยเอโดะ
ชั้นสองของอาคารเป็นโรงน้ำชา
อาคารใหญ่อยู่ไม่ไกลจากประตูใหญ่มากนัก เป็นที่จัดแสดงวัฒนธรรมการชงชาและงานฝีมือ
ตุ๊กตาแมวที่ทำโดยมือ
ผมชอบตุ๊กตาตัวนี้มากที่สุด
แสงอาทิตย์ส่องผ่านประตูกระดาษ
นอกจากนี้แล้วที่ขั้นสองยังมี ของล้ำค่าอีกจำนวนมาก
คฤหาสน์แห่งนี้เหมาะแก่การสำรวจสถาปัตยกรรมในยุคสมัยเอโดะ
ในสมัยก่อนมีการส่งสินค้าผ่านทางแม่น้ำ Abukuma และโกดังในคฤหาสน์ก็ถูกใช้เป็นที่เก็บสินค้า
ในปี 2010 ตัวโกดังและอ่างอาบน้ำหินก็ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
โกดังสวยมากครับ
นอกจากนี้แล้วยังมีอาคารหลังใหญ่ข้างหลังคฤหาสน์อีกด้วย
การตกแต่งภายในอาคาร
ขั้นบันไดเก่า
ความเป็นญี่ปุ่นที่อัดแน่นอยู่ในคฤหาสน์
มีนิทรรศการภายในอาคารด้วย
หน้าต่างบริเวณชั้นสองเหมือนหน้าต่างในโบสถ์
นอกจากนี้แล้วยังมีงานอีเวนท์จัดที่คฤหาสน์แห่งนี้อีกด้วย ที่อยู่ของคฤหาสน์อยู่ด้านล่าง
ร้านเบเกอรี่ Manma-Tei
ทุกครั้งที่ผมมาเที่ยวที่เมืองมารุโมริ ผมมักจะซื้อพุดดิ้งที่ร้าน Manma-Tei ติดมือกลับไปด้วย ครั้งนี้ผมจึงลองซื้อขนมปังกับเค้กดู
จริงๆแล้วอย่างอื่นน่าจะอร่อยกว่าพุดดิ้งอีกนะ
ล่าสุดที่ผมมาที่ร้านนี้คือเมื่อสามเดือนก่อนกับเพื่อนในมหาลัย พอเพื่อนผมรู้ว่าผมจะมาเที่ยวเมืองมารุโมริอีก เพื่อนๆจึงฝากให้ผมซื้อขนมไปฝากพวกเขาด้วย
วันนี้ผมพึ่งรู้ว่านอกจากจะขายเบเกอรี่แล้ว ที่ชั้นสองยังเป็นร้านอาหารอีกด้วย
ที่อยู่ร้าน Manma-Tei อยู่ด้านล่าง
ประดิษฐ์งานฝีมือที่ Te-Shigoto-Kan
Te-Shigoto-Kan เป็นเวอร์คช็อปงานประดิษฐ์ในเมืองมารุโมริ ท่าสามารถลองประดิษฐ์งานฝีมือได้ที่นี่ โดยจะมีครูคอยสอนอยู่ ซึ่งผู้สอนจะเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเมือง
งานบางอย่างก็ทำมาจากฟาง ซึ่งนำไปใช้งานได้หลายอย่าง
ผมได้ลองทำรองเท้าแตะจากฟางดู
การทำรองเท้าแตะนั้นใช้เวลาเป็นอย่างมาก ผมเคยทำรองเท้าแตะกับคุณปู่ของผม แต่น่าเสียดายที่ท่านเสียไปเมื่อหลายปีก่อน งานประดิษฐ์รองเท้าแตะจากฟางทำให้ผมระลึกถึงปู่อีกครั้ง
นอกจากนี้แล้วยังมีการสอนทอผ้าอีกด้วย
ที่อยู่ด้านล่าง
ต้นบอนไซของคุณปู่อาจิมะ
คืนนี้ผมมาพักที่บ้านของคุณ Ajima ในเมืองมารุโมริ ซึ่งคุณ Ajima ก็ต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จคุณ Ajima กับเพื่อนของเขาก็แสดง Minyou ให้พวกเราดู Minyou เป็นการร้องเพลงโบราณของญี่ปุ่น ประกอบด้วยเพลงสี่เพลง ซึ่งจะมีเนื้อเรื่องอยู่ในบทเพลง
ลูกสาวของเขาใกล้จะแต่งงาน และจะต้องแยกจากครอบครัวในไม่ช้านี้ เขาจึงเล่าให้ฟังว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากเพราะอยู่ด้วยกันมากว่ายี่สิบปีแล้ว การบอกลาไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆเลย
เขาส่งลูกสาวของเขาที่บ้านของเจ้าบ่าว และบอกลาเธอ จึงทำให้รู้สึกเศร้าอยู่เช่นกัน
ผมสังเกตเห็นน้ำตาของคุณปู่ Ajima ในขณะที่ร้องเพลงอยู่
เครื่องดนตรีที่ประกอบการแสดงทำมาจากต้นไผ่ เนื่องจากมีความเก่าแก่และไม่มีผลิตอีกแล้ว จึงมีราคาเท่า Mercedes Benz ในปัจจุบัน
นอกจากการแสดง Minyou แล้วคุณปู่ Ajimad ยังมีงานอดิเรกอีกอย่างคือการจัดบอนไซ
ต้นบอนไซบางต้นมีอายุกว่า 50 ปีแล้วต้องใช้ลวดขึงลำต้นไว้เพื่อให้ได้รูปร่างของต้นที่สวยงาม
ถึงเวลาต้องบอกลาเมืองมารุโมริแล้ว แต่ยังไงผมก็จะมาเที่ยวที่เมืองนี้อีกในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง