ที่เมืองซาโอะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ผมจึงตัดสินใจที่จะอยู่ต่ออีก 1 คืน
โรงแรมยูโตะโมริ
ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงแรมแต่ลักษณะภายในของโรงแรมนั้นเหมือนคลับเฮาส์เป็นอย่างมาก
วิวในยามดึกของบริเวณคลับดูโรแมนติกดีครับ
ทางโรงแรมมีกฎเข้าพักคือจำกัดคนเข้าพักไม่เกิน 9 คนและห้ามเด็กเล็กเข้าพักที่นี่
หลังจากเช็คอินเข้ามาแล้ว ท่านสามารถทานอาหารและเครื่องดื่มต่างๆภายในโรงแรมฟรี อาหารเช้าและอาหารเย็นจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ซึ่งล้วนแต่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
โรงแรมแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย
ที่ล็อบบี้มีพนักงานเล่นเปียโนอยู่ทุกวันเพื่อสร้างบรรยากาศ รู้สึกผ่อนคลายดีครับ
นอกจากนี้แล้วยังมีบริการ คาราโอเกะ นวด สปา และกิจกรรม outdoor ที่น่าสนใจอีกด้วยครับ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้โรงแรมนี้ต่างจากที่อื่นคือมีห้องโยคะที่ติดกับแม่น้ำและบ่อน้ำพุร้อน
ที่อยู่ของโรงแรมอยู่ด้านล่าง ทางโรงแรมมีกิจกรรมจัดขึ้นตลอดปี
เดินป่าที่ Kotori House
Kotori House เป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินไฮค์ครับ
ไฮค์กิ้งเป็นหนึ่งในกกิจกรรมสุดโปรดของของผม และการเดินไฮค์ครั้งล่าสุดของผมคือที่อุทยานแห่งชาติ Tilton ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เหมือนกันคือเป็นการเดินไฮค์ในฤดูหนาว แต่ในวันนี้จะมีผู้นำทางซึ่งเขาเป็นนักพฤกษศาสตร์ชื่อว่า คุณ Emiko Takahashi
นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินป่าในช่วงฤดูหนาว เพราะว่าความหนาของหิมะทำให้เดินลำบากอีกทั้งยังมีสัตว์ป่าอีกด้วย ดังนั้นที่ Kotori House มีอุปกรณ์เดินป่าให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อที่จะได้เดินอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
ที่ Kotori House มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกอยู่หลายทาง
คุณ Emiko เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของพฤกษศาสตร์และพันธุ์สัตว์ของเมืองซาโอะ เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลานานหลายปี จึงทำให้เขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับสภาพดินและเขตแดนของเมืองซาโอะเป็นอย่างดี
วันนี้เราใช้เวลาเดินกว่าสองชั่วโมง ซึ่งคุณ Emiko ใช้เส้นทางลัดทำให้เราเดินไปยังยอดเขาได้ไวขึ้น
เมื่อเราเดินขึ้นไปถึงยอด ก็จะสามารถเห็นสกีรีสอร์ทของเมืองซาโอะได้อย่างชัดเจน
สามารถล้มตัวลงไปนอนที่หิมะนุ่มๆอย่างสบาย
นอกจากนี้แล้วภายใน Kotori House ยังมีนิทรรศการแสดงพันธุ์ของเมืองซาโอะอีกด้วย
ที่อยู่ของ Kotori House อยู่ด้านล่าง
ลิ้มลองชีสแห่งเมืองซาโอะที่ Cheese Shed
เมืองซาโอะเป็นเมืองที่มีขื่อเสียงในเรื่องของชีส ร้าน Cheese shed เป็นร้านอาหารที่มีเมนูเกี่ยวกับชีส
เมื่อก่อนผมเคยกินอาหารที่มีชีสเป็นส่วนประกอบที่อเมริกา และผมสามารถบอกความแตกต่างระหว่างชีสของอเมริกาและชีสของญี่ปุ่นได้ อเมริกันชีสจะมีรสชาติที่เค็มกว่า ในขณะที่ชีสของญี่ปุ่นจะมีรสชาติที่กลมกล่อมกว่า
ชีสของเมืองซาโอะทำให้อาหารมีรสสัมผัสที่มากขึ้น
โดยปกติแล้วชีสจะมีไขมันที่สูงมาก แต่ชีสของซาโอะจะไม่ค่อยมันเท่าไร
ที่อยู่ของ Cheese shed อยู่ด้านล่าง
ระหว่างทางกลับ ผมเห็นท้องฟ้าสีสวยมากจึงลงไปถ่ายรูปซักหน่อย