ในรถไฟที่แน่นเอียด น่าเสียดายที่คุณเห็นแต่คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ลมหนาวพัดผ่านตึกระฟ้าและความรู้สึกหม่นหมองเข้ามาปกคลุมตัวคุณ แต่คุณก็ไม่อาจค้นหาความสุขที่ห่างออกมาจากความวุ่นวายในตัวเมือง ท่ามกลางธรรมชาติที่นี่ ในมารุโมริมาฉิ
มารุโมริเป็นที่รู้จักจากครอบครัวไซโต้ ครอบครัวพ่อค้าที่มั่งคั่งที่ย้อนไปถึงเจ็ดรุ่นในช่วงหลังของยุคเอโดะ หรือที่มักจะเรียกกันว่า “บ้านไซริ” คฤหาสน์ของพวกเขาได้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถเข้าไปชมสิ่งของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จากยุคที่ใช้ระบบศักดินาจนถึงยุคสมัยใหม่ การพิจารณารูปถ่ายจากยุคก่อนทำให้ภาพเหตุการณ์ของประวัติศาสตร์ชัดเจนขึ้น
จากระเบียงที่ถูกสร้างขึ้นในยุคเอโดะ คุณสามารถเห็นต้นแปะก๊วยสีเหลือง
คุณจะต้องไม่อยากละสายตาออกจากสิ่งที่คุณเห็นเมื่อคุณมองออกไปนอกหน้าต่างของคฤหาสน์แล้วเห็นภาพวิวที่สวยงาม ตัวคฤหาสน์เองนั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความปราณีตราวกับผลงานศิลปะ คุณจะเพลิดเพลินไปกับงานประดิษฐ์และเครื่องเรือนที่มีมากถึง 6500 ชิ้น
ทริปล่องเรือไปตามแม่น่ำอะบุคุม่า เป็นสิ่งที่ควรจะลองสักครั้ง ในทริปนี้คุณจะสามารุเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการขนส่งทางน้ำได้ด้วยตัวคุณเอง
คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวิวของหุบเขาที่ธรรมชาติใช้เวลานานแสนนานสร้างมันขึ้นมา และคุณยังสามารถชมการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลของบริเวณรอบ ๆ แม่น้ำได้อีกด้วย
ที่จุดหมายของทริปล่องเรือ คุณอาจจะได้พบกับตัวละครคล้ายนกฮูกกับเป็ด
ข้างนอกสถานีรถไฟไร้ผู้โดยสาร อะยุคุมะ คุณสามารุเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรื่องเล่าอุตสาหกรรมตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางป่า
คุณสามารถนั่งจิบกาแฟขณะชมวิวทิวทัศน์ของป่าไม้ แมวเหมียวดูท่าจะพักผ่อนจนสดชื่น
ตามตามตำนานแล้ว มารุโมริในอดีตนั้นมีความรุ่งโรจน์จากการค้าขายผ้าไหมซึ่งแมวมีหน้าที่ปกป้องหนอนไหมจากหนู ทำให้แมวถูกเคารพเป็นเทพเจ้าที่คอยปกป้อง เราไปแอบดูร้านขายของฝากกันเถอะ
ทำไมไม่ลองมาเยี่ยมชมมารุโมริและสนุกไปกับการพักผ่อนหัวใจหลีกหนีเรื่องวุ่นวายจากชีวิตอันวุ่นวายในตัวเมืองดูล่ะ