CATEGORY สถานที่สำคัญ(Landmark)

วัฒนธรรม(Culture)

สถานที่ท่องเที่ยวในเซ็นไดที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุค!

ในช่วงต้นฤดูร้อนของเซ็นได สายลมอ่อนพัดผ่านจากพุ่มไม้และต้นไม้ต่าง ๆ ฤดูร้อนเป็นฤดูที่ทำให้เซ็นไดเป็นเมืองที่เหมาะกับชื่อ “เมืองแห่งต้นไม้” ในต้นฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนและการท่องเที่ยวในเมืองเซ็นได ในช่วงเวลานี้ผมขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสามแห่งที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมและให้ความรู้สึกเหมือนคุณได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสประวัติศาสตร์ของเซ็นไดด้วยตัวของตัวเอง ①เซ็นไดซิตี้มิวเซียม สถานที่แรกที่ผมจะขอแนะนำคือเซ็นไดซิตี้มิวเซียม นี่คือพพิธภัณฑ์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นบนบริเวณรอบนอกของซากปราสาทเซ็นได และคุณยังสามารถเห็น “ซังเก็ทสึเทย์” มรดกวัฒนธรรมของเมือง ซึ่งคุณสามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ได้จากสถานที่ตั้งของมัน การจัดแสดง แสดงตั้งแต่ยุคหินจนถึงปีหลังๆ และยังมีการจัดแสดงของมากกว่าพันชิ้นที่จัดเรียงอย่างมีระบบที่คุณสามารถเข้าไปชม คุณยังสามารถชมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเซ็นได ผมรู้สึกว่าพิพิธภัณฑ์ให้ข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับ ตระกูล “ดาเตะ” เมื่อคุณเข้าไปข้างใน หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดสายตาของคุณก็คือ มรดกของชาติที่ได้รับการลงทะเบียนกับ ยูเอ็นอี เวิร์ล “ภาพวาดฮะเสะคุระ ทสึเนะนะกะ” ภาพวาดสี่น้ำมันที่ถูกวาดขึ้นโดยศิลปินชาวญี่ปุ่นโดยใช้น้ำมันที่ดีที่สุดร่วมกับสีที่ฉูดฉาดก่อให้เกิดอิมแพคและความประทับใจต่อผู้ชม ตรงนี้ห้ามทำการถ่ายรูปเพราะฉะนั้นคุณจึงต้องไปชมความงามของมันด้วยตาของตัวเอง คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายนอกซึ่งภายในสวนมีรูปปั้นของ “ดาเตะ มะซะมุเนะ” ช่วงก่อนสงคราม ②ซากปราสาทเซ็นไดส่วนใน เมื่อผมรู้ประวัติของปราสาทเซ็นได ผมจึงตัดสินใจว่าจะต้องไปดูของจริงด้วยตัวเองสักครั้ง ซึ่งมันก็ใกล้กับพิพิธภัณฑ์มาก ๆ เพียงแค่เดินสิบนาทีเท่านั้น โปรดดูสภาพปัจจุบันของซากปราสาทเซ็นไดในบทความนี้ ได้ที่นี่. ที่นี่มีไวไฟฟรีให้บริการและยังมีคำบรรยายเขียนในหลายภาษา เพราะฉะนั้นคุณสามารถไปชมได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เข้าใจ ③1. กระท่อมบันซุย คุณรู้จักคนที่ชื่อว่า “โดอิ บันซุย” คุรอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน แต่เขาคือคนที่เขียนเนื้อเพลงของเพลงดังอย่าง “โคโจ โนะ ทสึคิ” ที่พักอาศัยแห่งสุดท้ายของบันซุยยังถูกรักาไว้ในสภาพเดียวกับตอนที่เขายังมีชีวิต…

ทริป(Day Trips)

ไปกินบุฟเฟ่ 手打ちそば(เทะอุจิโซบะ) ที่อยู่ในหลืบเขาของยามากาตะกันเถอะ!

ในครั้งนี้ เราได้ไปเยือนสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของโซบะ คือ เมืองโออิชิดะ จังหวัดยามะกาตะ โออิชิดะเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของยามากาตะ เป็นเมืองที่โดนล้อมรอบไปด้วยภูเขา ที่เมืองแห่งนี้มี「そば街道(โซบะไคโด หมายถึงถนนโซบะ)」ซี่งมีร้านเทะอุจิโซบะมากมายหลายร้าน ในวันหยุดมีคนมากมายทั้ง ในจังหวัดและต่างจังหวัด ต่างพากันมากินโซบะที่นี่ ในครั้งนี้เราได้เลือกร้านมาร้านหนึ่ง จากร้านขายโซบะมากมายที่อยู่บนถนนเส้นนี้ เราเลือกร้าน 「七兵衛そば (ชิชิบีโซบะ)」ซึ่งมีการใช้หัวไชเท้าในการทำซุปทำให้มีรสชาติเผ็ด และยังมี เทะอุจิโซบะให้กินแบบไม่อั้นอีกด้วย! ร้านที่อยู่ในลึกไปในภูเขาให้ความรู้สึกดั่งบ้านลับ… ร้าน七兵衛そば ขับรถจากตัวเมืองยามากาตะ ลึกเข้าไปในภูเขาใช้เวลาประมาณ 30 นาที ให้บรรยากาศเหมือนเมืองในสมัยก่อน ที่นั่นจะมี 大石田そば街道(โออิชิดะโซบะไคโด) อยู่ มีแต่ ภูเขา แม่น้า ทุ่งนาอยู่รายรอบ รอบข้างถนนมีร้านขายโซบะอยู่สลับไปมา ถ้าจะพูดถึงสัญลักษณ์ก็มีแค่ ป้ายหน้าร้านของร้านเหล่านั้นเท่านั้น ระวังอย่าขับเลยนะครับ ▼สัญลักษณืของร้าน七兵衛そば คือป้ายนี้ ถ้ามองขึ้นไปด้านบนจะเห็นหลังคาสีแดงครับ 。 เมนูมีแค่ บุฟเฟ่โซบะเท่านั้น เมื่อเข้าไปในร้าน จะได้รับป้ายหมายเลข ถามจำนวนคน จากนั้นก็พาไปที่นั่ง แล้วก็พร้อมกินได้เลยครับ จากนั้นก็มีพวกเครื่องเคียงผักภูเขา ผักดอง มาเสิร์ฟให้ตามจำนวนคน วิธีการกินของที่ร้านนี้ คือการคีบผักดองพวกนี้ทานไปพร้อมกับโซบะครับ ผักดองฝีมือคุณป้าเหล่านี้อร่อยนะครับ แต่ว่าอย่ากินเยอะเกินหละ เพราะว่าอาหารหลักของเราคือโซบะนั่นเอง!…

จุดเด่น(Feature)

อยู่โตเกียวก็รับรู้การกินของยามากาตะได้ที่「おいしい山形プラザ (โออิชี่ ยามากาตะ พลาซ่า)」

ในวันนี้เราจะพาไปที่ร้าน「おいしい山形プラザ」ซี่งเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายผัก ผลไม้อร่อยๆ ของยามากาตะ ร้าน 「おいしい山形プラザ」ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยในการถ่ายถอดวัฒนธรรมการกินของยามากาตะ ให้คนในโตเกียวได้รับรู้ จุดสำคัญที่1:ถ้าจะพูดถึงยามากาตะก็คือผักนี่แหละ ! โดยการสนับสนุน อุเอซึกิ โยซังโค (ลอร์ดลำดับที่ 9 ของตระกูลโยเนะซาว่า) ทำให้มีการเพาะปลูกผักลักษณะต่างๆมากมาย ซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิดที่หลงเหลือถึงปัจจุบัน และกลายเป็นสัญลักษณ์ของผักพื้นที่แถบโชใน ยามากาตะก็มีผักแบบดั้งเดิมที่สืบทอดความรู้มาจากคนในสมัยก่อน หรือพวกสมันไพรภูเขาที่สามารถเก็บเกี่ยวได้จากภูเขาใกล้ๆ และยังมีวัฒนธรรมการกินรูปแบบเฉพาะที่ยังหลงเหลืออยู่  ผู้คนเริ่มให้ความสนใจใน「อาหารปลอดภัย」「slow food」มากขึ้นทำให้ผักพื้นบ้านของยากมากขึ้นทำให้ผักพื้นบ้านของยามากาตะได้รับความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย เมื่อเข้ามาในร้านตรงมุมขายผักก็จะมีผักพื้นบ้าน「おかひじき (โอกาฮิจิกิ)」ซึ่งช่วยบำรุงกระเพาะ หรือ 「うこぎ (อุโคะกิ)」ซึ่งมีวิตามินมากมายหลากหลายชนิด เป็นต้น วางเรียงรายไว้ ผักตามฤดูกาลก็มีอีกมากมาย ถ้ามาแถวกินซ่าอย่าลืมแวะมาดูกันให้ได้นะครับ จุดสำคัญที่2:วัตถุดิบแบบชั่งขายของยามากาตะ สำหรับคนที่สนใจวัตถุดิของยามากาตะ แต่ยังไม่มั่นใจอยากลองก่อนแค่นิดหน่อย ในปีนี้ก็เปิดในบริการการให้ซื้อแบบชั่งน้ำหนักได้แล้ว ซึ่งเป็นบริการที่เหมาะกับคนที่อยากลองวัตถุดิบหลายๆ แบบของยามากาตะจริงๆ 「เห็ดชิตาเกะยักษ์สไลด์แห้ง」หรือจะเป็น 「เห็ดหูหนูตากแห้ง」หรือว่าจะเป็น 「พาสต้ากรุบกรอบ」ที่ทำจากแป้งโซบะ เรียงรายกันให้เลือกซื้อได้ที่มุมนี้ คนที่อยากลองใช้วัตถุดิบจากยามากาตะทำอาหารเย็นในค่ำคืนนี้ ก็หยิบใส่ถุงแล้วชั่งเลยย ! จุดสำคัญที่3:YAMAGATA San-Dan-Delo ที่ชั้นสองจะมีร้านอาหารฝรั่งเศสที่ชื่อว่า 「YAMAGATA San-Dan-Delo」ให้ลิ้มรสชาติอาหารจากวัตถุดิบพื้นๆ สดใหม่ของยามากาตะ อีกทั้งยังทำอาหารเร็วด้วยนะ เสิร์ฟอาหารที่มีสีสันสวยงาม ใช้วัตถุดิบชั้นดีมากมายจากยามากาตะ ทำอาหารด้วยวิธีที่ไม่ส่งผลเสียต่อผู้รับประทาน เมื่อมาทานอาหารที่ร้านนี้ก็จะทำให้รู้สึกถึงความยอดเยี่ยมของจังหวัดยามากาตะได้เลยทีเดียว ถ้ามาที่กินซ่า ก็อย่าลืมมาพบกับบรรยากาศอาหารอร่อยๆ ที่นี่ให้ได้นะครับ! おいしい山形プラザ (โออิชี่ ยามากาตะ พลาซ่า)」HP:http://oishii-yamagata.jp/…

ทริป(Day Trips)

อาบอิออนลบ ที่น้ำตกที่ยิ่งใหญ่ของเซนได『น้ำตกอากิอุ』กันเถอะ!

ในครั้งนี้ เราได้เพลิดเพลินไปกับอิออนลบที่ น้ำตกอากิอุแห่งเมืองเซนได น้ำตกอากิอุอยู่เลยจากโซน อากิอุออนเซน เข้าไป เป็นที่ที่มีธรรมชาติสวยงามเหมาะแก่การพักกายพักใจ หากเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 60 นาทีจากศุนย์กลางเมืองเซนได และยังเป็นเส้นทางที่เหมาะกับการขับรถชมวิวได้ทั้งสี่ฤดูอีกด้วย! ขั้นแรก1:แวะศาลเจ้า 秋保大滝不動尊 (อกิอุโอตะกิฟุโดซน)! ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมน้ำตกอากิอุ ขั้นแรกก็แวะศาลเจ้ากันก่อน ศาลเจ้าอากิอุโอตะคุฟุโดซน ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185) เป็นพระเจ้าผู้ปกป้องของตระกูลดาเตะแห่งเมืองเซนได ซึ่งเป็นศาลเจ้าตระกูลดาเตะนั้นได้ให้ความเคารพกราบไหว้บูชามาตั้งแต่ครั้งในอดีต ที่แห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน 建御名方神 (ทะเกะมินะคาตะโนะคะมิ) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสามเทพผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น 建御名方神 อาจจะเรียกได้ว่าเป็น เทพแห่งการแข่งขัน! คนเราทุกคนในล้วนมีการแข่งขันเข้ามาเกี่ยวในทุกๆวัน แข่งกับเพื่อน ต่อสู้กับสิ่งล่อใจ แข่งกับตนเอง…. มาขอพรเผื่อกันเอาไว้นะครับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางเกียวกับเรื่องการแต่งงานด้วย 「たらよう ทะระโย」เป็นต้นไม้มงคลที่อยูในบริเวณนั้น เชื่อกันว่าถ้าใบของมันร่วงลงมาจะโชคดี หรือจะเก็บใบของมันกลับไปเพื่อเป็นเครื่องรางในเรื่องการแต่งงานก็ได้ นอกไปจากนั้น ยังมีความเชื่อกันว่า หากใครก็ตามพบปลาคราฟที่ถูกแกะสลักที่ไหนสักแห่งในศาลเจ้าจะได้รับพรที่เกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์ที่ดี ขั้นที่สอง:ชมวิวของน้ำตกจากจุดชมวิว! เมื่อลงบันไดที่อยู่ลึกเข้าไปจากศาลเจ้า จะพบกับจุดชมวิวของน้ำตกอากิอุ น้ำตกอากิอุกว้างประมาณ 6 เมตร สูงประมาณ 55 เมตร ปริมาณน้ำของน้ำตกก็มีมากมาย…

朝市:アイキャッチการเข้าถึง(Access)

แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเซนได!?สามารถหาของสดได้ที่ตลาดเช้าของเซนได

「ห้องครัวของเซนได」เป็นสถานที่ๆ ผู้คนมากมายรักมาตั้งเนิ่นนาน ตลาดเช้าของเซนได เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 1945 เป็นต้นมา ให้บริการต่อเนื่องมา 70 กว่าปีแล้ว ในปัจจุบันมีร้านค้าประมาณ 70 ร้านเปิดให้บริการ ดอกไม้ ผัก ผลไม้ ข้าวสาร ปลา หรือ กับข้าว สามารถหาของสดใหม่ได้ที่นี่ เดินจากสถานีเซนได ใช้เวลาประมาณเพียงสองนาทีเท่านั้น ในตอนกลางวันจึงมีผู้คนมากมายครึกครื้น ของดังในการเดินไปกินไป「โคร็อกเก้มันฝรั่ง」 ร้าน「โคร็อกเก้」ที่อยู่ตรงใจกลางตลาดซึ่งทำให้เราสารารถรับประทานโคร๊อกเก้หรือของทอดที่ทำเสร็จใหม่ๆได้ 「โคร็อกเก้มันฝรั่ง」ที่ใช้มันฝรั่งจากฮอกไกโด เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่สำหรับคนต่างประเทศจะนิยม โคร็อกเก้ฝักทอง กับ ปลาอจิชุบแป้งทอดมากกว่า มีให้เลือกถึง 18 เมนู มาลองหาเมนูที่ชอบกันดูนะครับ คนขายในแต่ละร้านล้วนต้อนรับขับสู้อย่างดี เมื่อมีลูกค้าเดินเข้ามาใกล้ คนขายจะเข้าไปทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เสียงสดชื่น บางร้านยังมีการใช้สมาร์ทโฟนช่วยในการแปลสื่อสารกับชาวต่างชาติอีกด้วย มีคนมากมายที่ซื้อผลไม้จากร้านขายผลไม้แล้วเดินกินไป ชมตลาดไปอีกด้วย 詳細はこちら

ドローン:アイキャッチการเข้าถึง(Access)

มุมมองจากท้องฟ้าที่สวยงามสามแห่งของมิยากิ

ในคราวนี้เราจะมาแนะนำรูปถ่ายแหล่งท่องเที่ยวของมิยากิ โดยใช้ดรอนที่ผู้คนในปัจจุบันให้ความสนใจ! ทัศนียภาพที่มองลงมาจากฟ้า ให้ความรู้สึกแตกต่างจากภาพที่เราดูในเวลาปกติยิ่งนัก เหมือนกับเราได้กลายเป็นนกเลยทีเดียว….! ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำสามแห่ง คิงกะซัง คิงกะซังเป็นเกาะทีเป็นที่รู้จักกันว่ามีกวางอยู่ ในอีกด้านหนึ่งก็มีหน้าผาสูงชันซ่อนอยู่ ซึ่งขัดกับภาพของเกาะที่เงียบสงบ มัตสึชิม่า มัตซึชิม่าเป็นเมืองที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติติดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น มีสี่สันหลากหลายตัดกันสร้างความสวยงาม มหาวิทยาลัยโทโฮคุ มหาลัยที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของโทโฮคุ ที่มหาลัยโทโฮคุมีการปลูกต้นซากุระไว้มากมาย ในเดือนสี่ ทั่วมหาลัยจะมีสีชมพูอ่อน สวยงามยิ่งนัก แนะนำผู้ถ่ายภาพและผู้เขียนบทความ 佐々木賢一(Kenichi Sasaki) คณะกรรมการบริษัทไตรพอดเวิร์ค/ ที่ปรึกษา Tohoku365Project เกิดที่จังหวัดมิยากิ หลังจากนั้นเรียนมหาลัยและทำงานที่โตเกียวประมาณ 15 ปี หลังจากเข้าทำงานที่สถาบันวิจัยญี่ปุ่น ก็ทำงานที่บริษัท Oracle ที่ญี่ปุ่นที่มีเจ้าของเป็นต่างประเทศ ในปี 2000 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อานวยการภูมิภาคสาขาโทโฮคุ จึงกลับมาที่เซนได หลังจากนั้นในปี 2005 เดือน พฤศจิกายน ก็ได้ตั้งบริษัทไตรพอดเวิร์ค ในขณะนี้ได้พยายามทำให้การจัดการให้เป็นแบบโกบอล อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักกันในผู้ที่สร้างโปรโมทวีดีโอของสถานที่มีชื่อต่างๆ โดยใช้ ดรอน และกล้อง 4K

八木山:アイキャッチจุดเด่น(Feature)

ทัศนียภาพที่สวยงามสามแห่งของเซนได

ในครั้งก่อน、เราได้เขียนบทความถึง「สัมผัสธรรมชาติของเซนได – แห่งที่คุณต้องไม่พลาด」ในครั้งนี้จะมาแนะนำถึงทัศนียภาพที่สวยงามของเซนได 1.ยากิยามะ นั่งรถไฟใต้ดินสาย โทไซจากสถานีในเมืองประมาณ 20 นาที เนื่องจากยากิยามะอยู่บนยอดของภูเขาทำให้สามารถเห็นเมืองทั้งเมืองได้ วันไหนอากาศดีๆ สามารถมองไปเห็นได้ถึงทะเลแปซิฟิคเลย วิวตอนกลางคืนก็สวยงามมาก ขอแนะนำเลยครับ 2.สะพานมิยาซาว่า สะพานมิยาซากิ สามารถเดินทางไปได้โดยการนั่งรถไฟสาย นันโบะกุ ไปลงที่สถานีคาวาระมะจิ เดินอีกประมาณสองนาที จะถึงสะพานข้ามแม่น้ำฮิโระเซะ รูปข้างล่างคือภาพโคมไฟลอยที่จัดแถวสะพานมิยาซาว่าตอนเดือนสิงหาคม สีเขียวของเมืองเซนได กระแสน้ำที่สดชื่นที่ไหลลอดใต้สะพาน ช่วยให้รู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้ 宮沢橋は地下鉄南北線河原町駅より徒歩2分の広瀬川にかかる橋です。下は宮沢橋周辺で行われる8月の灯篭流しの写真です。 杜の都仙台の緑と、宮沢橋下を抜ける清流が爽やかで、夏をちょっぴり涼しくしてくれます。 3.อกิอุ อกิอุที่แคยแนะนำไปแล้วในบทความ「สัมผัสธรรมชาติของเซนได – แห่งที่คุณต้องไม่พลาด」สำหรับคนที่ชอบในธรรมชาติ คงไม่สามารถหยุดถ่ายรูปได้แน่ๆเลย สรุป สีเขียวมากมายที่อยู่คู่กะเมือง 「เซนได」 ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามอีกมากมาย ที่ทำให้อยากถ่ายรูปจนไม่สามารถหยุดกดชัตเตอร์ได้ นี่แหละคือเมืองที่เรียกว่าเซนได มาลองสัมผัสสเน่ห์ของเซนได้แบบ 「4D」ที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากรูปถ่ายมั้ยครับ

pic_0241-300x169จุดเด่น(Feature)

ประวัติศาสตร์ 1900 ปีของศาลเจ้า “อาซะคุนิสึโคะ”

ในปี ค.ศ. 135 ศาลเจ้าอะซะคุนิสึโคะถู฿กสร้างขึ้นในกลางจังหวัดฟุคุชิม่าเพื่อความสงบสุขและการเจริญงอกงามของพืชผล มาล้างมือที่ “โฉซุชะ” ๖สร้างขึ้นมาสำหรับล้างมือและบ้วนปาก ก่อนจะเข้าไปยังตัวศาลเจ้า ศาลเจ้าอะซะคุนิสึโคะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และสามารถเดินไปได้ โดยใช้เวลาแปดนาทีจากสถานีโควริยะมะ ถึงแม้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองแต่เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปยังบริเวณศาลเจ้าแล้วคุณจะรู้สึกว่าเวลาและบรรยากาศโดยรอบนั้นเป็นบรรยากาศของศาลเจ้าโดยเฉพาะ นอกจากนั้นคุณยังไม่รู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่มันหนักอึ้งเหมือนบรรยากาศในตัวเมือง แต่คุณจะสามารถรู้สึกได้ถึงความขลังองตัวศาลเจ้า คุณสามารถได้ยินเสียงลมพัดผ่านและใบไม้ที่ร่วงหล่นตามสายลม ศาลเจ้านี้นั้นมีผลกระทบต่อวัฒนธรรม ประวัติสาสตร์ และความสง่างาม คุณสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นความศักดิสิทธิที่แผ่ออกมาจากศาลเจ้าแห่งนี้ ผมขอแนะนำให้คุณไปยังศาลเจ้าแห่งนี้ ศาลเจ้าสร้างจากไม้ชาดด้วยเทคนิคพิเศษของช่างที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างวัดโดยเฉพาะ มีโครงสร้างหลายอย่างที่น่าสนใจที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ในปี 1910 สถานที่นี้ถูกสร้างงขึ้นและสามารถชมเทศกาลใบไม้ร่วงได้ในเดือนกันยายน วันที่ 28,29 ในส่วนของู้เขียนนั้น ถึงแม้จะอยู่ญี่ปุ่นมามากกว่ายี่สิบปีแล้วก็ยังไม่เคยเห็นอาคารแบบนี้มาก่อน ในศาลเจ้าแห่งนี้มีประตูที่เห็นอย่างรูปข้างบนมากมาย ซึ่งเป็นการสักการะเทพเจ้าแห่งการเพาะปลูก อาหาร และการค้าขาย สรุป ศาลเจ้าแห่งนี้สามาถเดินทางไปได้ง่ายมากแล้วบรรยากาศก็ดีมากอีกด้วย เชิญรื่นรมย์ไปกับบรรยากาศศักดิสิทธิที่ศาลเจ้าอะซะคุนิสึโคะให้เต็มที่

13835944_1138600542880315_81095499_o-1024x682ทริป(Day Trips)

สัมผัสบรรยากาศเมื่อ 400 ปีที่แล้วที่ “Ouchi-Juku”

โออุจิจูกุ เป็นสถานที่เก็ยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นระยะเวลากว่าสี่ร้อยปี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 1 ล้านคนต่อปีจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ ภูมิทัศน์ สถานที่แห่งนี้ทำให้รู้สึกคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เมืองแห่งนี้ได้ถูกตั้งให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ประวัติ เมื่อ 400 ปีก่อน ขุนนางจำนวนและซามูไรจำนวนมากได้มาแวะพักอาศัยที่เมืองแห่งนี้ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองโตเกียว ดังนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จึงเปิดกิจการโรงแรมและทำงานเกษตรกรรมเป็นรายได้หลัก ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 1683 และสงครามไอซุในปี 1868 เมืองแห่งนี้ก็ยังคงความสวยงามแบบเดิมมาป็นเวลากว่า 400 ปี อาหาร อาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ โซบะต้นหอม ดังนั้นอย่าลืมที่จะสั่งเมนูนี้มาลองกินกันละ สรุป คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศ 400 ปีก่อนได้ที่เมืองแห่งนี้ อย่าลืมมาแวะเที่ยวกันละ! access

7ทริป(Day Trips)

กินเต้าหู้ทอดที่ภูเขาเซียวกิ

ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเซนไดล้วนรู้จัก เต้าหู้ทอดแห่งภูเขาเซียวกิ ในครั้งนี้เราจะนำเสนอเมนูนี้ให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบกัน จริงๆแล้วชื่อที่ถูกต้องคือ “Zyogi Nyorai Saihou Temple” ทางตะวันออกของเมืองเซนได ที่ตีนเขาของทิวเขาโออุเป็นที่ตั้งของภูเขาเซียวกิ มีชื่อเดิมว่า “เซียวกิ” แต่ปัจจุบันถูกเรียกว่า “เซียวเกะ” เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ภายในภูเขามีถนนมอนเซนและวัดตั้งอยู่อีกด้วย คุณสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยใช้รถโดยสารหรือรสบัส มาเข้าวัดกันเถอะ ประตูทางเข้านั้นมีอายุมากถึง 90 กว่าปี หลังจากผ่านประตูใหญ่ไปก็จะพบโถงของตัววัด ตามหลักประเพณีควรจะล้างมือก่อนเข้าวัด ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็น การล้างมือก่อนเข้าวัดหมายถึงการชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งร่ายกายและจิตใจ เชื่อกันว่าใครก็ตามที่มาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้จะได้รับโชคลาภกลับไปด้วย ที่ทางเข้าของตัววัดมีการปรับปรุงซ่อมแซมพระพุทธรูปอยู่ คาดว่าน่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2016 สวนญี่ปุ่น หลังจากเดินชมสวนแล้ว คุณสามารถเห็นตัวอาคารอีกแห่ง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1999 และภายในยังมีสวนสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายอีกด้วย เมื่อเดินอยู่ซักพักคุณก็จะพบกับสวน โมริโนะมิยาโกะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้นอีกด้วย กินเต้าหู้ทอด หากได้มาถึงภูเขาเซียวกิแล้ว แต่ไม่ได้ลองเต้าหู้ทอดของที่นี่ก็ถือว่ายังมาไม่ถึง เมื่อเดินออกมาจากวัดจะมีร้านขายเต้าหู้ทอดตั้งอยู่ใกล้ๆซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของเต้าหู้ทอด คิวยาวมากกก เต้าหู้หนึ่งชิ้นจะมีราคาประมาณ 120 เยน กินคู่กับโชยุและผงกระเทียม สรุป การเดินทางมาที่นี่ใช้เวลาไม่มากนัก สามารถมาแบบไปเช้าเย็นกลับได้ วิวสวย เต้าหู้อร่อย…

銀山温泉-768x1024วัฒนธรรม(Culture)

สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวลับ: กินซันออนเซน

ที่เมืองโอบานะซาวะ จังหวัดยามากาตะ เป็นที่ตั้งของออนเซนแห่งหนึ่งมีชื่อว่า “กินซัน” ออนเซนแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวเนื่องจากมี บ่อน้ำพุร้อนและโรงแรมเป็นจำนวนมาก ที่น่าสนใจคือออนเซนแห่งนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ชื่อดังของ Ghibli อีกด้วย ซึ่งก็คือเรื่อง Spirited Away นั่นเอง ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ออนเซนแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา และสีของภูมิทัศน์โดยรอบจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลอีกด้วย ในช่วงฤดูร้อนบริเวณรอบตัวรีสอร์ทจะเป็นสีเขียว และในช่วงฤดูหนาวออนเซนแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ดังนั้นอย่าลังเลที่จะเลือกช่วงเวลาที่จะมาเที่ยว ไม่ว่าฤดูไหนก็สวยต่างกันไปคนละแบบ มุมมองในยามค่ำคืน บรรยากาศของออนเซนแห่งนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อถึงเวลาตอนกลางคืน แสงจากเรียวกังจะส่องสว่างอยู่ตามถนนเก่าๆ ในช่วงฤดูร้อนจะมีคนสวมยูกาตะเดินอยู่บริเวณรอบๆ โรงแรมญี่ปุ่น หนึ่งในจุดเด่นของออนเซนแห่งนี้คือ บรรยากาศเก่าๆที่ถูกสร้างขึ้นโดย อาคารโรงแรมโบราณโดยรอบ โรงแรมบางแห่งมีประวัติยาวนานย้อนไปตั้งแต่สมัยโชวะ หรือ 100 กว่าปีก่อน โรงแรมเหล่านี้ยังคงให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องเป็นอาหาร ที่พัก ความอบอุ่นและความเป็นกันเองของพนักงานโรงแรม และแน่นอนว่ายังคงมีความลับอีกมากมาย ณ ออนเซนแห่งนี้ ซึ่งยังคงรอคอยให้เหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายมาค้นหา คุณสามารถลองมาสัมผัสบรรยากาศกับเร้นลับ ผ่อนคลาย และความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ได้ที่ออนเซนแห่งนี้ กินซันออนเซน Trip adviser

鶴ヶ城-1-300x169สถานที่สำคัญ(Landmark)

ปราสาทซึรุกะ: เรื่องราวประวัติศาสตร์ ซากุระ และชา

คนที่มาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นคงคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับ ภาพวิวปราสาทสีขาวที่มีต้นไม้สวยอยู่รอบๆ ปราสาทญี่ปุ่นเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ที่เมืองไอซุจังหวัดฟุกุชิมะเป็นที่ตั้งของปราสาทซึรุกะ เป็นสถานที่ที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวและผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบ เมื่อสามปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ถึง 1 ล้าน 5 แสนคนเลยทีเดียว โปรดอ่านต่อด้านล่างหากคุณอยากรู้ว่าทำไมปราสาทแห่งนี้ถึงมีความโด่งดังเป็นอย่างมาก ความสวยงามของปราสาท ปราสาทซึนุกะมีความสูงประมาณ 36.5 เมตร ถือเป็นความสูงระดับทั่วไป แต่ยังดูมีความยิ่งใหญ่ในตัว จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือ มีหลังคาสีแดงสดที่ตัดกับสีขาวของตัวกำแพง บริเวณรอบตัวปราสาท ที่รอบตัวปราสาทมีสวนญี่ปุ่นจัดอยู่โดยรอบ ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยคูเมือง ความภาคภูมิใจของปราสาทแห่งนี้คือ เป็นปราสาทที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม และงานศิลป์ญี่ปุ่นดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี ประวัติของ “Rinkaku” พิธีชงชาเป็นหนึ่งในพิธีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งปราสาทซึรุกะก็มีประวัติที่เกี่ยวกับพิธีชงชาอยู่ด้วย เซนโนะ ริคิว เป็นผู้ให้กำเนิดพิธีชงชา ซึ่งในสมัยก่อนเขาปกป้องบุตรของเขาโดยการส่งบุตรไปยังปราสาทซึรุกะเพื่อเรียนรู้พิธีชงชา เพื่อที่จะเผยแพร่วิชาให้ผู้อื่นต่อ สรุป ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการมาเที่ยวที่ปราสาทแห่งนี้คือ ช่วงพฤษภาคม ซึ่งต้นไม้และหญ้าโดยรอบจะมีสีเขียวสดงดงาม หรือจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งคุณจะสามารถเห็นดอกซากุระบานรอบตัวปราสาทได้ Youtube Google MAP Trip adviser

塩釜神社-1024x576วัฒนธรรม(Culture)

ศาลเจ้าชิโอะกามะ: วัดพันปี

ศาลเจ้าชิโอะกามะเป็นหนึ่งในศาลเจ้าเพียงไม่กี่แห่งที่มีประวัติยาวนานถึง 1200 ปี และยังเป็นสถานที่ที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย ต้นซากุระบริเวรศาลเจ้าเปรียบได้กับอนุสรณ์ทางธรรมชาติ คนที่มาศาลเจ้าล้วนมาขอพรเกี่ยวกับ สุขภาพของทารก สภาพของทะเล รวมถึงการเดินทางปลอดภัย บันไดสู่โชคลาภ ทางไปศาลเจ้าเป็นขั้นบันไดจำนวน 202 ขั้น ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าสามารถเดินผ่านครบทุกขั้นจะถือว่าโชคดี ในทุกๆปีจะมีคนมากราบไหว้และขอพรอีกด้วย ขออะไรก็ได้ นอกจากนี้แล้ว เรายังสามารถขอพรอะไรก็ได้ตามที่เราปรารถนา ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงก็ตาม ที่นี่ยังมีกระทั่งเครื่องลางที่เขียนว่า”สมพรปรารถนาในทุกๆเรื่อง” บริเวณสวน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิคุณสามารถเดินชมดอกซากุระได้ที่สวนของศาลเจ้า ในฤดูร้อนสวนจะเป็นสีเขียว ในฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นสีแดง และในฤดูหนาวก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นอกจากนี้แล้วยังมีร้านดังโงะใกล้ๆอีกด้วย สรุป คุณสามารถเดินทางมาที่นี่โดยนั่งรถไฟมาจากสถานีรถไฟเซนได ศาลเจ้าชิโอะกามะถือเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสัมผัสวัฒนธรรม สักการะ และขอพรจากเทพเจ้า อย่าลืมมาแวะเที่ยวที่นี่กันละ! ーーーーーーーーーーーーーーー WEB(Japanese only) http://www.shiogamajinja.jp/ ーーーーーーーーーーーーーーー

よねざわ4-300x169ทริป(Day Trips)

เที่ยวเมืองโยเนซาวะที่ยามากาตะ

วันนี้พวกเราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น แต่ทว่าที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่หนาวที่สุดของญี่ปุ่นและยังมีอะไรหลายอย่างที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังที่แห่งนี้ ที่แห่งนี้คือเมืองโยเนซาวะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ยามากาตะ เดินทางออกจากสถานีรถไฟเซ็นไดไปยังเมืองยามากาตะ พวกเรายังสัมผัสได้ถึงอากาศหนาวในช่วงเดือนกุมภา พวกเรานั่งรถบัสไปยังเมืองโยเนซาวะตอน 8:40น. เนื่องจากมีรถบัสเป็นจำนวนมากจนอาจจะทำให้สับสน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการขึ้นรถบัสให้ดี ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง เราก็มาถึงศาบเจ้าคามิสุกิ ในครั้งนี้หิมะให้ถมกันหนาประมาณ 30 เซนติเมตรปกคลุมไปทั่วท้องถนนทำให้อากาศของที่นี่หนาวกว่าเซ็นไดอีก ใช้เวลาในการเดินประมาณ 10 นาที ในตอนแรกพวกเราเดินไปยัง “Suzugen Orimono” มาชมการสาธิตการย้อมสีผ้าเช็ดหน้าโดยช่างทอของเมืองนี้ ภายนอกอาคารเป็นบ้านสไลต์ญี่ปุ่นโบราณ และข้างในนั้นมีเครื่องทอผ้าแบบญี่ปุ่นอีกด้วย รับเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เห็นเครื่องจักรชนิดนี้ พวกเราได้ลองย้อมผ้าดู ซึ่งกว่าจะมาเป็นผ้าเช็ดหน้าที่สวยงามนั้นนับว่ายากเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ทีดีสำหรับพวกเราทุกคน เราใช้เวลาไปประมาณ 30 นาทีกับการย้อมผ้า นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถทดลองสวมเครื่องแต่งกายญี่ปุ่นได้อีกด้วย สีสันสดใส ใส่แล้วดูดีมาก เพียงแค่ลองใส่ก็นับเป็นความทรงจำที่ดีเลยทีเดียว หลังจากนั้นเราเดินทางต่อไปยัง Denkoku no mori ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการภายในอาคาร มีอุปกรณ์ที่คนในอดีตใช้กันตั้งแต่สมัย Sengoku รวมถึงปืนใหญ่จำลองสำหรับทดลองเล่น และที่ทางเข้ามีการแสดงรำแบบญี่ปุ่น หรือ โนะ อีกด้วย หลังจากนั้นเราเดินทางไปยังหมู่บ้าน Kamakura โดยรสบัสและรับประทานอาหารกลางวันที่นั่น พวกเราตัดสินใจเดินทางไปยัง Asahiya Ryokan แต่ว่าที่นี่ยังมีโรมแรมอื่นๆอีกเช่นกัน เราขอแนะนำให้คุณลองไปสำรวจหลายๆที่ดู…

魚市場記事用2-1024x683ทริป(Day Trips)

ทริปอิ่มท้องที่ Shiogama!

เริ่มต้นเดินทางจากสถานีรถไฟเซ็นไดไปยังเมืองชิโอกามะ ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี East Shiogama Station และเดินต่อไปยังทิศตะวันออกประมาณ10 นาที ชิโอกามะเป็นแหล่งขายอาหารทะเล และจะมีของสดใหม่มาขายทุกๆเช้า เมื่อคุณเดินเข้ามาจะพบกับอาหารทะเลนานาชนิด กลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยรนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ปลาทูน่าที่ Shiogama นับได้ว่าใหญ่ติดอันดับทอปของญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณสามารถซื้อปลาขนาดใหญ่ได้ในราคาถูก ถ้าโชคดี คุณอาจจะได้เห็นโชว์การผ่าปลาด้วย ที่น่าสนใจคือ คุณสามารถกินข้าวหน้าปลาดิบแบบสดๆที่ตลาดได้เลย ในราคาเพียงแค่ 1000 เยน เขาบอกว่า พอใจกับอาหารทะเลสดอร่อยมากๆ ทั้งกิน ทั้งชม ทั้งย่างปลา สนุกมากๆ ถ้าอยากกินปลาสดๆ แบบสดจากทะเลเราแนะนำให้คุณมาที่ตลาดปลา Shiogama!! หลังจากเที่ยวชมตลาด ซากุระที่ศาลเจ้า Shiogama สวยงามมากครับ พวกเราได้ไปลองชิมเบียร์ที่โรงผลิตเบียร์ชื่อดัง Kirin ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่นเลยทีเดียว 【กำหนดการเดินทาง】 8:00   สถานีรถไฟ Sendai → สถานี East Shiogama          …