ในช่วงต้นฤดูร้อนของเซ็นได สายลมอ่อนพัดผ่านจากพุ่มไม้และต้นไม้ต่าง ๆ ฤดูร้อนเป็นฤดูที่ทำให้เซ็นไดเป็นเมืองที่เหมาะกับชื่อ “เมืองแห่งต้นไม้”
ในต้นฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนและการท่องเที่ยวในเมืองเซ็นได
ในช่วงเวลานี้ผมขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสามแห่งที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมและให้ความรู้สึกเหมือนคุณได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสประวัติศาสตร์ของเซ็นไดด้วยตัวของตัวเอง
①เซ็นไดซิตี้มิวเซียม
สถานที่แรกที่ผมจะขอแนะนำคือเซ็นไดซิตี้มิวเซียม นี่คือพพิธภัณฑ์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นบนบริเวณรอบนอกของซากปราสาทเซ็นได และคุณยังสามารถเห็น “ซังเก็ทสึเทย์” มรดกวัฒนธรรมของเมือง ซึ่งคุณสามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ได้จากสถานที่ตั้งของมัน
การจัดแสดง แสดงตั้งแต่ยุคหินจนถึงปีหลังๆ และยังมีการจัดแสดงของมากกว่าพันชิ้นที่จัดเรียงอย่างมีระบบที่คุณสามารถเข้าไปชม คุณยังสามารถชมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเซ็นได ผมรู้สึกว่าพิพิธภัณฑ์ให้ข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับ ตระกูล “ดาเตะ”
เมื่อคุณเข้าไปข้างใน หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดสายตาของคุณก็คือ มรดกของชาติที่ได้รับการลงทะเบียนกับ ยูเอ็นอี เวิร์ล “ภาพวาดฮะเสะคุระ ทสึเนะนะกะ”
ภาพวาดสี่น้ำมันที่ถูกวาดขึ้นโดยศิลปินชาวญี่ปุ่นโดยใช้น้ำมันที่ดีที่สุดร่วมกับสีที่ฉูดฉาดก่อให้เกิดอิมแพคและความประทับใจต่อผู้ชม
ตรงนี้ห้ามทำการถ่ายรูปเพราะฉะนั้นคุณจึงต้องไปชมความงามของมันด้วยตาของตัวเอง
คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายนอกซึ่งภายในสวนมีรูปปั้นของ “ดาเตะ มะซะมุเนะ” ช่วงก่อนสงคราม
②ซากปราสาทเซ็นไดส่วนใน
เมื่อผมรู้ประวัติของปราสาทเซ็นได ผมจึงตัดสินใจว่าจะต้องไปดูของจริงด้วยตัวเองสักครั้ง ซึ่งมันก็ใกล้กับพิพิธภัณฑ์มาก ๆ เพียงแค่เดินสิบนาทีเท่านั้น
โปรดดูสภาพปัจจุบันของซากปราสาทเซ็นไดในบทความนี้
ได้ที่นี่.
ที่นี่มีไวไฟฟรีให้บริการและยังมีคำบรรยายเขียนในหลายภาษา เพราะฉะนั้นคุณสามารถไปชมได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เข้าใจ
③1. กระท่อมบันซุย
คุณรู้จักคนที่ชื่อว่า “โดอิ บันซุย” คุรอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน แต่เขาคือคนที่เขียนเนื้อเพลงของเพลงดังอย่าง “โคโจ โนะ ทสึคิ” ที่พักอาศัยแห่งสุดท้ายของบันซุยยังถูกรักาไว้ในสภาพเดียวกับตอนที่เขายังมีชีวิต และนั่นก็คือ กระท่อมบันซุยแห่งนี้นี่เอง
เหตุผลที่ผมแนะนำสานที่แห่งนี้เป็นเพราะบ้านหลังนี้ กระท่อมยันซุยถูกก่อตั้งขึ้นในปี คศ. 1949 ซึ่งไม่มีการซ่อมครั้งใหญ่แต่อย่างใดแต่กระท่อมหลังนี้ยังคงความรู้สึกและรูปร่างของยุคสมัยที่มันถูกสร้างขึ้นมาได้
ถึงแม้คุณจะไม่รู้บันซุยแต่แค่ได้เข้าไปในบ้านคุณจะสามารถรู้สึกได้ถึงความสวยงามในยุดโชวะและสวนที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตั้งแต่สมัยบันซุยยังมีชีวิตอยู่ ทำให้รู้สึกเหมือนว่าหากเข้าสู่เดือนตุลาคมดอกฮอลี่สีขาวกำลังจะเบ่งบาน ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างโรแมนติก คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความโหยหาได้จากสถานที่แห่งนี้
สรุป
ในบทความนี้พวกเราไปดูสามสถานที่ที่คุณรู้สึกราวกับว่าคุณได้ย้อนเวลากลับไปในเซ็นไดยุคก่อน ยังมีสถานที่อื่น ๆ อีกมากที่คุณสามารถสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเซ็นได เพราะฉะนั้นในอนาคตพวกเราลองไปเยี่ยมชมกันเถอะ
เซ็นไดซิตี้มิวเซียม
ซากปราสทเซ็นได
กระท่อมของบันซุย