ในตอนกลางของจังหวัด อิวาเตะ มีฟาร์มชื่อ “โคยวาย” ฟาร์มแห่งนี้สามารถเดินทางมาได้โดยอาศัยรถบัสจาก โมริโอกะ โดยใช้เวลาเพียง 40 นาที ฟาร์มแห่งนี้มีประวัติยาวนานถึง 136 ปี และภายในมีสัตว์อยู่นานาชนิด วันนี้ผมจะมาแนะนำ “โคยวาย” ฟาร์มให้ทุกคนได้รู้จักกัน สวนมาคิบะ หลังจากผ่านทางเข้าไปก็สามารถพบกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมายเช่น วอเทอร์ แฮมเตอร์, ยิงธนู, กอล์ฟ, ขี่ม้า, และอื่นๆ ในช่วงเสาร์อาทิตย์บรรดาครอบครัวจำนวนมากเลือกสวนแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หลังจากที่สนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ ไปแล้วในช่วงเช้า พวกเราก็ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่มีอยู่ในสวนกัน ผมได้ทาน “จิงกิสุคัน” ซึ่งมีราคาแค่ 1050 เยน เท่านั้นซึ่งถือว่าถูกมากหากนับว่าเป็นร้านอาหารที่อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว และในร้านที่ผมไปรับประทานนั้นก็ยังมีเมนูที่ใช้เนื้อที่ได้จากฟาร์มแห่งนี้และอื่น ๆ อีกมากให้เลือกรับประทานกันได้ตามรสนิยม หลังจากอาหารกลางวันก้ตามด้วยไอศครีมที่ทำจากนมสดที่เพิ่งรีดจากแม่วัวในฟาร์ม บัสทัวร์ หลังจากอิ่มทั้งของคาวและของหวาน ผมก็ได้โอกาสใช้บริการบัสทัวร์ซึ่งมีไกด์คอยให้คำอธิบายเกี่ยวกับฟาร์มแห่งนี้ ซึ่งบัสทัวร์ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สรุป วันนี้ผมไม่ได้พูดถึงกับการแสดงของแกะที่มีการจัดแสดงภายในฟาร์ม, นั่งรถลาก และอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถลองมาสัมผัสได้ในฟาร์มแห่งนี้ เมื่อคุณมายังโทโฮคุ คุณสามารถสนุกไปกับกิจกรรม…

เมื่อถามถึง “คาวาซาคิ” ทุกคนอาจจะคืดถึง จังหวัด คาวาซาคิ มีน้อยคนนักที่จะนึกว่า จังหวัดมิยากิ ก็มีคาวาซาคิเหมือนกัน เมือง คาวาซาคิ ในจังหวัดมิยากินั้น อยู่ห่างจากสนามบินเซ็นไดเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ในเมืองแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่ 9000 พันคน มีรีสอร์ท เขื่อนคามาฟูเซะ ลานสกี อุทยานแห่งชาติ และออนเซ็น พวกเราได้ไปสำรวจออนเซ็น “คันเซ็น โชเก็ตสึ” เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับออนเซ็นลับของเมืองแห่งนี้มาและวันนี้เราก็จะมาเล่าให้ทุกท่านฟังกัน ห้องพักร่วมสมัยที่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นไว้ได้เป็นอย่างดี โรงแรมของเราอยู่ห่างจากภูเขาเพียงแค่ 530 เมตรเท่านั้นเอง ทางโรงแรมจัดอาหารเต็มคอร์สไว้ให้กับพวกเรา แต่สำหรับคนที่ยังไม่หนำใจก็สามารถไปชิมอาหารท้องถิ่นรอบ ๆ โรงแรมได้เช่นกัน โรงแรม โอคาซากิ ที่อยู่ข้าง ๆ และ อาหารชื่อ “ยูโมโตะ ฟุโบคาคุ” หากกำลังมองหาออนเซ็นลับท่ามกลางหุบเขาแล้วล่ะก็ ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลแล้วล่ะ มาที่นี่เลย รีสอร์ท “โอเนะ ออนเซ็น” ในเมือง คาวาซาคิ จังหวัดมิยากิ

หลังจาก อะควอเรี่ยม “มารินเพีนร์มัตสึชิม่า” ปิดตัวลงหลังจากเปิดให้บริการนานถึง 88 ปี และอควอเรี่ยม “เซ็นได อุมิโนโมริ” ต้องย้ายที่ตั้งเพราะสึนามิครั้งใหญ่ ในปี 2011 อควอเรี่ยมหลังใหม่นี้ได้กลายมาเป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองเซ็นไดและบริเวณรอบ ๆ ปราสาทเพนกวิน อควอเรี่ยมแห่งนี้ มีเพนกวินมากกว่า 80 ชนิดให้ผู้ชมได้เยี่ยมดู และยังมีช่วงเวลาที่ให้นักท่องเที่ยวให้อาหารเพนกวินได้อีกด้วย การแสดง สัตว์น้ำจากอควอเรี่ยมหลังเดิมที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิครั้งใหญ่นั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นแต่อย่างใดและได้ถูกย้ายมายังอควอเรี่ยมหลังใหม่แห่งนี้ โลมาที่ถูกย้ายมาก็มีการเปิดแสดงมให้นักท่องเที่ยวได้ดูกันอีกด้วย  อควอเรี่ยม ในอควอเรี่ยมมีปลาน่าสนใจอยู่มากมาย ทั้งปลาที่อาศัยอยู่ใน น้ำจืด และ น้ำเค็ม อควอเรี่ยมแห่งนี้เป็นตัวเลือกที่ดีหากต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ต้องค้างคืน และต้องการให้เด็ก ๆ ได้รับประสบการณ์และความรู้ใหม่ ๆ พวกเราชาว โทโฮคุ 365 รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เหล่าสัตว์น้ำน่ารักพวกนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บจากสึนามิที่สร้างความเสียหายแก่อาคารหลังเก่า และรสามารถหาบ้านหลังใหม่ได้ ที่”อูมิโนโมริ” แห่งนี้

เทพแห่งการสอบที่ฝืนแรงโน้มถ่วง ศาลเจ้าสึริชิ อยู่ใน จังหวัด มิยากิ,อิชิโนมากิ ศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ในเมือง คิตาตามิโชว, จูซันฮะมะ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักในก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมผาและเป็นตัวแทนของเทพแห่งการสอบ ก้อนหินยักษ์นี้ไม่แม้แต่จะจยับเขยื้อนแม้จะผ่านภัยพิบัติอย่างเช่น แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1978 หรือ สึนามิ ในปี 2011 จนได้รับการขนานนามว่าเทพเจ้าแห่งการสอบที่ฝืนกฏแรงโน้มถ่วง แต่เทพเจ้าองค์นี้จะได้รับการบูชาก็แค่เพียงช่วงสอบเท่านั้น ศาลเจ้าแห่งนี้ยังถูกเชื่อว่าจะนำความโชคดีมาให้แก่บริษัท เพราะในชื่อ มีคำว่า สึริ ที่แปลว่า ตกปลา และตัวก้อนหินนั้นมีรูปร่างคล้ายกับเต่าซึ่งมีความหมายว่าอายุยืน เมื่อเดินขึ้นบันไดไปคุณจะได้เห็นมันใกล้ ๆ เมื่อเดินขึ้นบันไดไปคุณจะได้เห็นมันใกล้ ๆ （ภาพจากข้างล่าง ） เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่อย่างนี้ได้ยังไง （ภาพจากด้านข้าง） มันมีก้อนหินหนุนอยู่ด้านใต้ หรือถูกยึดโดยภูเขากันนะ ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามมันก็ดูน่าสนใจอยู่ดีไม่ว่าจะมองจากมุมไหน Summary  มาที่สึริชิเพื่อดูก้อนหินยักษ์ที่ฝืนกฏแรงโน้มถ่วงกันเถอะ

สนามบินนานาชาติเซนไดมีเส้นทางการบินเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่หลาย ๆ เมืองในญี่ปุ่น และ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ ปักกิ่งเมืองหลวงของจีน ไทเป ของไต้หวัน และเมืองอื่น ๆ รอบโลกอีกมากมาย วันนี้เราจะนำเสนอถึงวิธีเดินทางจากสนามบินมาย่านกลางเมืองของเซนได อันดับแรกที่จะพูดถึง ทั้งเครื่องบินขาออกและขาเข้า ทั้งบินในประเทศละต่างประเทศต่างมีประตูอยู่บนชั้นหนึ่งทั้งสิ้น และคุณก็จะพบศูนย์ข้อมูล ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายซิม และเอทีเอ็มได้ภายในสนามบิน บนขั้นสอง คุณจะพบป้ายบอกทางบอกวิธีที่จะไปยังที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านให้คุณเลือกซื้อของฝาก ร้านอาหาร และมีแม้กระทั่งที่นั่งพักให้คุณสามารถชมภายนอกสนามบินได้อีกด้วย คุณสามารถมองเห็นเครื่องบินที่กำลังเตรียมตัวบินได้ชัดจากจุดนี้ ถ้าเดินตามป้ายบอกทางไปคุณจะสามารถไปยังรถไฟเชื่อมต่อระหว่างสนามบินและตัวเมือง ซึ่งมันจะพาคุณไปถึงสถานีรถไฟเซนไดโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ รถไฟเชื่อมต่อระหว่างสนามบินกับตัวเมืองนั้นมี 2-3 ขบวนต่อชั่วโมง ค่าโดยสารสำหรับ ผู้ใหญ่ คือ 650 เยน ส่วนสำหรับเด็กนั้น เพียงแค่ 330 เยน เมื่อมาถึงแล้วก็เอ็นจอยกันให้เต็มที่ไปเลย Sendai Airport Transit Homepage Enjoy Tohoku! Tohoku365 Travel&Culture

ตอนนี้หน้าร้อนก็กำลังจะหมดแล้ว และฤดูใบไม้ผลิก้กำลังจะมาเยือน วันนี้ผมจะมาเล่าถึงสถานที่ที่ช่วยเสริมดวงด้านความรักของคุณ ศาลเจ้า “ฟูตะฮะชิระ อยู่ใกล้ ๆ กับสถานี “ยาโทเมะ” หรือห่างจากเซนไดประมาณยี่สิบนาทีหากเดินทางโดยร๔ยนต์ หลังจากไปถึงสถานีแล้ว จะต้องเดินไปอีกประมาณ หหนึ่งกิโลครึ่งก่อนจะถึงตัวศาลเจ้า หากคุณวางแผนจะไปช่วงหน้าหนาวแล้วล่ะก็อย่าลืมใส่เสื้อหนา ๆ มาด้วยล่ะ คุณควรจะบริจาคเป้นเงิน จำนวน ห้า เยน (ในภาญี่ปุ่น อ่านว่า โกเอน) ซึ่งออกเสียงเหมือนกับคำว่า โชคดีในภาษาญี่ปุ่น (อ่านว่า โกเอน) และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคุรควรจะบริจาคเป็นเงิน ห้า เยน ขณะที่ทำการศักการะ คุณจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อที่เทพเจ้าจะได้ยินเสียงคำอธิษฐานของคุณ โค้งสองครั้ง ตบมือสองครั้ง แล้วก็โค้งอีกครั้งหนึ่ง หากทำตามขั้นตอนเสียงอธิษฐานของคุณก็จะส่งไปถึงเทพเจ้าได้แล้ว ที่จริงแล้ว ผมเองก็สงสัยว่าทำไมศาลเจ้าแห่งนี้ถึงโด่งดังในเรื่องความรักกันนะ ผมจึงกูเกิ้ลซะหน่อย แล้วก็ได้พบคำตอบที่จะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังกันในวันนี้ ถึงที่ไทยเราจะนับเทพ หรือเทวดา เป็นตน แต่ที่ญี่ปุ่นเขาจะนับเทพ เป็น ต้น (สรรพนามของเสา) เสาสองต้น (เทพสององค์) คือ อิซานากิ โนะ มิโคโตะ…

วันนี้ผมขอแนะนำหมู่บ้านโบราณ สมัยเมจิ หมุ่บ้านดทยามะเมจิ หรือที่ถูกเรีกยว่า “หมู่บ้านมิยากิเมจิ” ในเมืองโทเมะ ในหมู่บ้านโทยามะเมจิมีบ้านพักของเหล่าซามูไร โรงเรียน บ้านเก่าที่ถูกเก็บไว้ตั้งแต่สมัยเมจิ คุณสามารถหาประสบการณ์การเดินทางย้อนเวลากลับไปยังอดีตได้ยังที่แห่งนี้ ที่อยู่ทางเหนือของจังหวัดมิยากิ หอสมุด(สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ของประเทศญี่ปุ่น) หอสมุดถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 และถุกใช้โดยโรงเรียน โทเมะจินเจียว หอสมุดก่อสร้างด้วยไม้ มีลักษณะรูปตัว U โดยมีระเบียงอยุ่ด้านนอกตัวอาคาร หอสมุดแห่งนี้เป้นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่ที่มมีคุณค่าทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ค่าเข้าชม : 400 เยน หอข้อมูลตำรวจ (สถานที่สำคัญทางวัฒนะรรมของจังหวัด) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1889 สถานีตำรวจโทเมะถูกใช้เพื่อสร้างหอข้อมูลแห่งนี้ขึ้นสถาปนิกที่สร้างหอข้อมูลแห่งนี้คือคนเดียวกับที่สร้างหอข้อมูลการศึกษา อาครหลังนี้เป็นอาคารไม้สูงสองชั้น มี shitami itabari(กระดานไม้แขวนไว้ข้างแผ่นเหล็ก) หลังคาตกแต่งด้วยแผ่นกระเบื้อง บนทางเข้าคือระเยียง แสดงถึงความก้าวล้ำหน้าทางเทคนิคของผู้สร้าง ที่นี่เป็นหอข้อมูลของตำรวจเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ค่าเข้าชม 300 เยน บ้านพักซามูไร ชูรันเทย์ ซามูไรหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1604 เมื่อ มูเนะสาดะ ชิไรชิ ย้ายจากมิซาว่า จังหวัดอิวาเตะ…

โออุจิจูกุ เป็นสถานที่เก็ยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นระยะเวลากว่าสี่ร้อยปี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 1 ล้านคนต่อปีจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ ภูมิทัศน์ สถานที่แห่งนี้ทำให้รู้สึกคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เมืองแห่งนี้ได้ถูกตั้งให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ประวัติ เมื่อ 400 ปีก่อน ขุนนางจำนวนและซามูไรจำนวนมากได้มาแวะพักอาศัยที่เมืองแห่งนี้ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองโตเกียว ดังนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จึงเปิดกิจการโรงแรมและทำงานเกษตรกรรมเป็นรายได้หลัก ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 1683 และสงครามไอซุในปี 1868 เมืองแห่งนี้ก็ยังคงความสวยงามแบบเดิมมาป็นเวลากว่า 400 ปี อาหาร อาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ โซบะต้นหอม ดังนั้นอย่าลืมที่จะสั่งเมนูนี้มาลองกินกันละ สรุป คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศ 400 ปีก่อนได้ที่เมืองแห่งนี้ อย่าลืมมาแวะเที่ยวกันละ! access

จุดเริ่มต้นของตลาดยามเช้ายูริอาเกะ นั้นย้อนไปตั้งแต่สมัยเอโดะ ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 400 ปีเลยทีเดียวถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2011 ตลาดแห่งนี้ก็ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ คุณสามารถซื้ออาหารทะเลสดๆ และผักนานาชนิดได้ที่ตลาดแห่งนี้ ดูให้ครบทุกร้าน มีร้านค้ามากถึง 50 ร้านรวมถึงร้านเล็กๆ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสัมผัสบรรยากาศภายในร้านค้าที่แตกต่างออกไปได้ คุณยังสามารถพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า เกี่ยวกับอาหรประจำฤดูและเมนูพิเศษประจำวันได้อีกด้วย ควรจะมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม หากคุณมาในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า คุณก็จะได้ซื้ออาหารที่สดที่สุดและยังได้สัมผัสบรรยากาศตลาดสดที่คึกครื้นอีกด้วย แต่ทว่า ถ้ามาสายๆก็จะเป็นช่วงโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงเอาว่าจะได้ของที่มีคุณภาพหรือไม่ ต้องกินอาหารทะเล ที่ตลาดแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเล คุณสามารถขอลองชิมได้ อาทิ เช่น หอยนางรม หอยเชลล์ เม่นทะเล ปลาทู และปลาหมึก นั่งกินริมทะเล คุณสามารถสั่งอาหารแบบจานเดียวมารับประทานริมทะเลได้ เช่น ข้าวหน้ามากุโร่ 500 เยน ขนมจีบนึ่ง 400เยน ซุปมิโซะ 300 เยน นอกจากนี้แล้วอาหารทะเลที่คุณซื้อมา สามารถนำไปปรุงหรือย่างกินแบบสดๆที่ตลาดแห่งนี้ได้อีกด้วย สรุป เจ้าของร้านคืท่านหนึ่งได้บอกว่า เขารู้สึกยินดีที่ได้สานต่อกิจการร้านค้าที่ตลาดแห่งนี้ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน มันได้ถูกสร้างขึ้นใหม่และคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเสมอมา ดังนั้นหากคุณหิวเมื่อไร ก็อย่าลืมมาเที่ยวที่ตลาดแห่งนี้กันละ

  AHHHHHHHHH   เขาคือผู้พิทักษ์แห่งเมืองอาโอโมริ…ผู้ปกป้องเมืองฮิโรซากิ…. เขาคือ แอปเปิ้ลแมน! ส่วนมากที่เมืองอื่นอาจจะมีมาสคอตน่ารักๆมาคอยโปรโมทเมืองของตัวเอง แต่ที่เมืองฮิโรซากิมีเพียงแค่ชายคนนี้ที่คอยโปรโมทเมือง ไม่มีใครรู้จักชื่อจริงของชายคนนี้ แต่ว่าเขาเกิดที่โตเกียวและย้ายมาอยู่ในเมืองฮิโรซากิจังหวัดอาโอโมริ เขาอ้างว่าผู้คนที่เมืองแห่งนี้มีความเป็นกันเองจึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองแห่งนี้ ภารกิจของเขาคือการ โปรโมทงานเทศกาลแอปเปิ้ล โดยการขายแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลของเขา りんご飴ワークショップ予想以上の参加者で無事終了しました！加賀温泉にりんご飴の花が咲いたよ( ^ω^ )美味しい弘前のりんごをご賞味あれ！ pic.twitter.com/TaVgTHW1d4 — りんご飴マン@青森の生キャラ (@ringo_a_me) 2015年9月5日 หากคุณมาเที่ยวที่จังหวัดอาโอโมริ ก็ลองมาตามหาชายผู้นี้ดูสิ I’m a tour guide today for foreigner tourists. Welcome to Hirosaki.May I help you？ pic.twitter.com/IjjwGj5fU6 — りんご飴マン@青森の生キャラ (@ringo_a_me) 2016年4月29日 Facebook　https://www.facebook.com/ringoameman/timeline Twitter　https://twitter.com/ringo_a_me?lang=ja information　http://www.hirosaki-kanko.or.jp/web/index.html

ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเซนไดล้วนรู้จัก เต้าหู้ทอดแห่งภูเขาเซียวกิ ในครั้งนี้เราจะนำเสนอเมนูนี้ให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบกัน จริงๆแล้วชื่อที่ถูกต้องคือ “Zyogi Nyorai Saihou Temple” ทางตะวันออกของเมืองเซนได ที่ตีนเขาของทิวเขาโออุเป็นที่ตั้งของภูเขาเซียวกิ มีชื่อเดิมว่า “เซียวกิ” แต่ปัจจุบันถูกเรียกว่า “เซียวเกะ” เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ภายในภูเขามีถนนมอนเซนและวัดตั้งอยู่อีกด้วย คุณสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยใช้รถโดยสารหรือรสบัส มาเข้าวัดกันเถอะ ประตูทางเข้านั้นมีอายุมากถึง 90 กว่าปี หลังจากผ่านประตูใหญ่ไปก็จะพบโถงของตัววัด ตามหลักประเพณีควรจะล้างมือก่อนเข้าวัด ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็น การล้างมือก่อนเข้าวัดหมายถึงการชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งร่ายกายและจิตใจ เชื่อกันว่าใครก็ตามที่มาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้จะได้รับโชคลาภกลับไปด้วย ที่ทางเข้าของตัววัดมีการปรับปรุงซ่อมแซมพระพุทธรูปอยู่ คาดว่าน่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2016 สวนญี่ปุ่น หลังจากเดินชมสวนแล้ว คุณสามารถเห็นตัวอาคารอีกแห่ง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1999 และภายในยังมีสวนสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายอีกด้วย เมื่อเดินอยู่ซักพักคุณก็จะพบกับสวน โมริโนะมิยาโกะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้นอีกด้วย กินเต้าหู้ทอด หากได้มาถึงภูเขาเซียวกิแล้ว แต่ไม่ได้ลองเต้าหู้ทอดของที่นี่ก็ถือว่ายังมาไม่ถึง เมื่อเดินออกมาจากวัดจะมีร้านขายเต้าหู้ทอดตั้งอยู่ใกล้ๆซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของเต้าหู้ทอด คิวยาวมากกก เต้าหู้หนึ่งชิ้นจะมีราคาประมาณ 120 เยน กินคู่กับโชยุและผงกระเทียม สรุป การเดินทางมาที่นี่ใช้เวลาไม่มากนัก สามารถมาแบบไปเช้าเย็นกลับได้ วิวสวย เต้าหู้อร่อย…

ที่เมืองโอบานะซาวะ จังหวัดยามากาตะ เป็นที่ตั้งของออนเซนแห่งหนึ่งมีชื่อว่า “กินซัน” ออนเซนแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวเนื่องจากมี บ่อน้ำพุร้อนและโรงแรมเป็นจำนวนมาก ที่น่าสนใจคือออนเซนแห่งนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ชื่อดังของ Ghibli อีกด้วย ซึ่งก็คือเรื่อง Spirited Away นั่นเอง ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ออนเซนแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา และสีของภูมิทัศน์โดยรอบจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลอีกด้วย ในช่วงฤดูร้อนบริเวณรอบตัวรีสอร์ทจะเป็นสีเขียว และในช่วงฤดูหนาวออนเซนแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ดังนั้นอย่าลังเลที่จะเลือกช่วงเวลาที่จะมาเที่ยว ไม่ว่าฤดูไหนก็สวยต่างกันไปคนละแบบ มุมมองในยามค่ำคืน บรรยากาศของออนเซนแห่งนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อถึงเวลาตอนกลางคืน แสงจากเรียวกังจะส่องสว่างอยู่ตามถนนเก่าๆ ในช่วงฤดูร้อนจะมีคนสวมยูกาตะเดินอยู่บริเวณรอบๆ โรงแรมญี่ปุ่น หนึ่งในจุดเด่นของออนเซนแห่งนี้คือ บรรยากาศเก่าๆที่ถูกสร้างขึ้นโดย อาคารโรงแรมโบราณโดยรอบ โรงแรมบางแห่งมีประวัติยาวนานย้อนไปตั้งแต่สมัยโชวะ หรือ 100 กว่าปีก่อน โรงแรมเหล่านี้ยังคงให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องเป็นอาหาร ที่พัก ความอบอุ่นและความเป็นกันเองของพนักงานโรงแรม และแน่นอนว่ายังคงมีความลับอีกมากมาย ณ ออนเซนแห่งนี้ ซึ่งยังคงรอคอยให้เหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายมาค้นหา คุณสามารถลองมาสัมผัสบรรยากาศกับเร้นลับ ผ่อนคลาย และความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ได้ที่ออนเซนแห่งนี้ กินซันออนเซน Trip adviser

อะกิยุออนเซนตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเซนไดมากนัก เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสัมผัสบรรยากาศงานศิลป์ญี่ปุ่น บ่อน้ำพุร้อน และวิวสวยงาม อะกิยุออนเซนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น สวนธรรมชาติ Tenshu-Kaku สวน Tenshu-kaku ตั้งอยู่ใกล้กับอะกิยุออนเซน คุณสามารถเดินชมสวนแห่งนี้ได้ ซึ่งที่สวนแห่งนี้ยังมีบ่อแช่เท้าอีกด้วย แช่เท้าไปพลางชมธรรมชาติไปพลาง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ค่าเสียหาย 450yen Google MAP งานหัตถกรรม อะกิยุเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของงานไม้ต่างๆ เช่น ลูกข่าง ตุ๊กตาไม้ และตะเกียบ ซึ่งที่นี่จะมีผู้ฝึกสอนการทำงานไม้ให้อีกด้วย ค่าเสียหาย koma：1000yen โรงอาบน้ำ หากคุณมาเที่ยวที่อะกิยุ สิ่งที่คุณจะพลาดไม่ได้เลยคือออนเซนนั่นเอง อุกิยุออนเซนมีประวัติยาวนานกว่า 1500 ปี นอกจากนี้องค์ราชา คินเม ยังเคยมาที่ออนเซนแห่งนี้อีกด้วย ค่าเสียหาย Onsen：1200yen MAP สรุป หากคุณต้องการที่จะสัมผัสออนเซนที่ดีที่สุดของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เราก็ขอแนะนำให้คุณมาลองเที่ยวที่อะกิยุออนเซนดู และที่นี่มีรีสอร์ทคอยรับรองนักท่องเที่ยวอีกด้วย

คนที่มาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นคงคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับ ภาพวิวปราสาทสีขาวที่มีต้นไม้สวยอยู่รอบๆ ปราสาทญี่ปุ่นเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ที่เมืองไอซุจังหวัดฟุกุชิมะเป็นที่ตั้งของปราสาทซึรุกะ เป็นสถานที่ที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวและผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบ เมื่อสามปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ถึง 1 ล้าน 5 แสนคนเลยทีเดียว โปรดอ่านต่อด้านล่างหากคุณอยากรู้ว่าทำไมปราสาทแห่งนี้ถึงมีความโด่งดังเป็นอย่างมาก ความสวยงามของปราสาท ปราสาทซึนุกะมีความสูงประมาณ 36.5 เมตร ถือเป็นความสูงระดับทั่วไป แต่ยังดูมีความยิ่งใหญ่ในตัว จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือ มีหลังคาสีแดงสดที่ตัดกับสีขาวของตัวกำแพง บริเวณรอบตัวปราสาท ที่รอบตัวปราสาทมีสวนญี่ปุ่นจัดอยู่โดยรอบ ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยคูเมือง ความภาคภูมิใจของปราสาทแห่งนี้คือ เป็นปราสาทที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม และงานศิลป์ญี่ปุ่นดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี ประวัติของ “Rinkaku” พิธีชงชาเป็นหนึ่งในพิธีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งปราสาทซึรุกะก็มีประวัติที่เกี่ยวกับพิธีชงชาอยู่ด้วย เซนโนะ ริคิว เป็นผู้ให้กำเนิดพิธีชงชา ซึ่งในสมัยก่อนเขาปกป้องบุตรของเขาโดยการส่งบุตรไปยังปราสาทซึรุกะเพื่อเรียนรู้พิธีชงชา เพื่อที่จะเผยแพร่วิชาให้ผู้อื่นต่อ สรุป ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการมาเที่ยวที่ปราสาทแห่งนี้คือ ช่วงพฤษภาคม ซึ่งต้นไม้และหญ้าโดยรอบจะมีสีเขียวสดงดงาม หรือจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งคุณจะสามารถเห็นดอกซากุระบานรอบตัวปราสาทได้ Youtube Google MAP Trip adviser

ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีชื่อเสียงในเรื่องชองการผลิตโลหะภัณฑ์ ซึ่งหนึ่งในงานศิลป์โลหะภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่เราจะมานำเสนอในวันนี้คือ “นัมบุ”หรือ “กาต้มน้ำ” ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นในจังหวัด อิวาเตะ การผลิตกาน้ำนัมบุได้เริ่มต้นขึ้นในตั้งแต่สมัย เฮอัน (ค.ศ. 784-1185) สามารถพบได้กว้างขวางในภูมิภาคอิวาเตะ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนานแต่ OIGEN ก็ยังภูมิใจในฝีมือการสร้างสรรค์โลหะนัมบุ ซึ่งมีประวัติถึง 160 ปี จึงทำให้โด่งดังไปทั่วโลก งานฝีมือและความภูมิใจ กาต้มน้ำที่ผลิตโดย OIGEN นั้นเป็นงานแฮนด์เมด โดยจะมีหมายเลขปั๊มติดอยู่กับตัวโลหะที่ทำเสร็จแล้ว สีสันที่หลากหลาย โดยปกติแล้ว OIGEN จะผลิตกาน้ำแค่สองสีคือ ดำกับสีดิน แต่เนื่องจากมีความต้องการจากทั่วโลกโดยเฉพาะเรื่องของสีสันที่หลากหลาย จึงทำให้สามารถเลือกสีที่ต้องการได้ คุณภาพ ประโยชน์ของกาน้ำนัมบุคือทำให้ต้มน้ำให้เดือดได้ภายในระยะเวลาที่สั้น ประโยชน์อย่างอื่นคือช่วยกำจัดสารเคมีในน้ำ รวมถึงขจัดกลิ่นอีกด้วย กาน้ำนัมบุเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังมีความสวยงาม ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมากาน้ำนัมบุ OIGEN ยังได้ถูกนำไปจัดแสดงที่งานนิทรรศการในลอนดอนอีกด้วย ในตอนนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับงานศิลป์เก่าแก่ของญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก กาน้ำนัมบุก็ถือเป็นหนึ่งในงานศิลป์ญี่ปุ่นที่คนกำลังให้ความสนใจกัน หากคุณมาที่ภูมิภาคโทโฮคุก็อย่าลืมหิ้วกาน้ำ OIGEN กลับไปละ! OIGEN HP

ศาลเจ้าชิโอะกามะเป็นหนึ่งในศาลเจ้าเพียงไม่กี่แห่งที่มีประวัติยาวนานถึง 1200 ปี และยังเป็นสถานที่ที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย ต้นซากุระบริเวรศาลเจ้าเปรียบได้กับอนุสรณ์ทางธรรมชาติ คนที่มาศาลเจ้าล้วนมาขอพรเกี่ยวกับ สุขภาพของทารก สภาพของทะเล รวมถึงการเดินทางปลอดภัย บันไดสู่โชคลาภ ทางไปศาลเจ้าเป็นขั้นบันไดจำนวน 202 ขั้น ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าสามารถเดินผ่านครบทุกขั้นจะถือว่าโชคดี ในทุกๆปีจะมีคนมากราบไหว้และขอพรอีกด้วย ขออะไรก็ได้ นอกจากนี้แล้ว เรายังสามารถขอพรอะไรก็ได้ตามที่เราปรารถนา ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงก็ตาม ที่นี่ยังมีกระทั่งเครื่องลางที่เขียนว่า”สมพรปรารถนาในทุกๆเรื่อง” บริเวณสวน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิคุณสามารถเดินชมดอกซากุระได้ที่สวนของศาลเจ้า ในฤดูร้อนสวนจะเป็นสีเขียว ในฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นสีแดง และในฤดูหนาวก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นอกจากนี้แล้วยังมีร้านดังโงะใกล้ๆอีกด้วย สรุป คุณสามารถเดินทางมาที่นี่โดยนั่งรถไฟมาจากสถานีรถไฟเซนได ศาลเจ้าชิโอะกามะถือเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสัมผัสวัฒนธรรม สักการะ และขอพรจากเทพเจ้า อย่าลืมมาแวะเที่ยวที่นี่กันละ! ーーーーーーーーーーーーーーー WEB（Japanese only） http://www.shiogamajinja.jp/ ーーーーーーーーーーーーーーー

จนถึงตอนนี้พวกเราได้นำเสนอสถานที่ที่น่าสนใจในภูมิภาคิตะวันออกเฉียงเหนือมากมายให้คุณมากมาย ครั้งนี้เราจะนำเสนอ 3 สถานที่ที่คุณต้องไม่พลาดในเมืองเซนได สวนมิชิโนกุ สวนสาธารณะมิชิโนกุเป็นอุทยานแห่งชาติที่ติดอยู่กับทะเลสาบคามะคาสะ อุทยานแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของดอกไม้จำนวนมาก ซึ่งเมื่อถึงเวลา ออกดอกบาน จะทำให้อุทยานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง สวนมิชิโนกุ HP สวนพฤกษศาสตร์อิซุมิ สวนพฤกษศาสตร์อิซุมิเป็นอีกหน่งสถานที่ทีไม่ควรพลาดเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เหมาะแก่การพักผ่อนและชมบรรยากาศธรรมชาติ คุณสามารถมาเยี่ยมชมเมื่อไรก็ได้ สวนพฤกษศาสตร์อิซุมิ อะกิยุ อะกุยิเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงามของป่าและน้ำตก หากคุณอยากจะสัมผัสความงามแบบชนบท เราก็แนะนำให้คุณลองมาเที่ยวที่นี่ดู สรุป สถานที่ที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นนั้นล้วนแต่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในเมืองเซ กนได ถือได้ว่าเป็นสถานที่สุดโปรดของพวกเรา คุณเองก็ลองมาแวะชมดูสิ!

ญี่ปุ่นเป็นที่โด่งดังในเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั่นก็คือ เหล้าสาเก สาเกของญี่ปุ่นนั้นอยู่มีหลายชนิด แต่มีเพียงแค่บางชนิดที่ได้รับรางวัลเพดดรีกรี หนึ่งในนั้นคือ Katsuyama Shuzou ประวัติของ Katsuyama Shuzou ยาวนานถึง 300 ปีเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะมาเล่าถึงประวัติอันยาวนานของ Katsuyama Shuzou การใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เหล้าสาเกผลิตมาจากข้าวญี่ปุ่น Katsuyama Shuzou ใช้น้ำคุณภาพดีจากเมืองเซนไดและคัดสรรข้าวอย่างดีมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสาเก สูตรในการทำเหล้าสาเกนั้นถือเป็นความลับ ชื่อเสียงระดับโลก Katsuyama ได้รับรางวัล 2015 Sake Competition หากคุณไม่มีเงินพอที่จะซื้อเหล้ายี่ห้อนี้ คุณยังสามารถมาชิมสาเกสดๆได้ถึงโรงงาน ถ้าคุณมายังภูมิภาคโทโฮคุ Katsuyama HP

เซนไดเปป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ ลิ้นวัวและเครื่องดื่ม คุณสามารถหาร้านอาหารสุดอร่อยและคุ้มราคาได้อีกด้วย ร้าน Kura-no-sho เป็นบาร์สไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับการแนะนำจาก Yelp และ Tripadvisor ปิ้งๆย่างๆ คุณสามารถพบร้านอาหารปิ้งย่างได้ในเมืองเซนได โดยที่หน้าร้านจะมีการย่างปลาและผักบนเตาไฟให้ลูกค้าได้ชมกัน ซึ่งร้านที่เราแนะนำก็คือ Kura-no-sho นั่นเอง โฮย่า เมนูที่แปลกท่สุดของญี่ปุ่นก็คือ โฮย่า หรือชื่อไทยก็คือ เพรียงหัวหอม ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง โดยจะมีลักษณะคล้ายกับแก้วมังกร รสชาติจะออกเปรี้ยว หวาน เค็ม และมีความขมหน่อยๆ เหมาะแก่การทานคู่กับเหล้าหรือเบียร์ ปลาแมคเคอเรลหรือปลาทู ปลาทูของจังหวัดมิยางิ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กิงกะ มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ปลาคัทสึโอะ ช่วงนี้เป็นฤดูปลาคัทสึโอะ โดยมากจะกินคู่กับกระเทียมแบบสดๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด โกโบ โกโบเป็นรากไม้ชนิดหนึ่งที่สามารถรับประทานได้ มัลักษณะค่อนข้างยาว ซึ่งโดยมากจะนำไปทอดจนกรอบ เหล้าสาเก คุณสามารถพบเหล้าสาเกได้หลายชนิดที่ภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งหมายความว่ามีเหล้าหายากราคาถูกจำนวนมากในภูมิภาคนี้ วีดีโอด้านล่างจะเป็นการสาธิตการดื่มเหล้าสาเกให้ถูกวิธี สรุป ร้าน Kura-no-sho ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่เราภูมิใจนำเสนอ หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารที่มีรสชาติคุ้มราคา link

ที่เมืองเซนได คุณสามารถได้ยิรคนกล่าวถึงบางอย่างที่เรียกว่า Reggae Punch มันไม่ใช่เพลงหรือท่าเต้น แต่มันคือเหล้าชนิดหนึ่งของเมืองเซนไดนั่นเอง Reggae Punch คืออะไร Reggae Punch ประกอบไปด้วย น้ำแข็ง เหล้าพีช 1 ส่วน และชาอู่หลง 4 ส่วน ทุกอย่างถูกผสมรวมกันจนออกมาเป็นเครื่องดื่มสุดพิเศษ ตกแต่งด้วย มิ้นท์ และเลมอนเล็กน้อย โดยมากจะพบเมนูได้ตามบาร์หรูๆภายในเมือง ต้นกำเนิด “Reggae Punch” ถือกำเนิดในแหล่งท่องเที่ยวยามกลางคืนในเมืองเซนไดซึ่งคือย่าน โคคุบุนโจ ซึ่งเมนูนี้ถูกคิดค้นโดยบาร์เทนเดอร์ที่ทำให้เหล่าลูกค้าที่คอไม่แข็งพึงพอใจ โดยแรกเริ่มเครื่องดื่มนี้มีชื่อเรียกว่า พีชอู่หลง แต่เนื่องจากเมื่อคนดื่มเมนูนี้ไปแล้ว จะมีท่าทางเหมือนเต้นเร็กเก้ จึงถูกเรียกว่า Reggae Punch ซึ่งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นยังได้ตีพิมพ์ทฤษฎีนี้อีกด้วย ชนแก้ว “Reggae punch” เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ไฮบอล (ค็อกเทล) ยังไม่เป็นที่สนใจมากนักเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ไฮบอลเหมาะสำหรับผู้ที่ดื่มสุราไม่เก่ง ช่วงประมาณปี 2000 ยอดการบริโภคเหล้าพีชสูงขึ้นจึงทำให้การการบริโภค Reggae Punch สูงขึ้นตามไปด้วย สรุป…

สวนพฤกษศาสตร์อิซุมิเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองเซนได เหมาะแก่การเดินเล่นอย่างมาก ในบทความนี้เราจะมารีวิวสวนพฤกษศาสตร์อิซุมิ โดยมีแขกรับเชิญเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอินโดนีเซียชื่อ Reza ยังได้กลิ่นของดอกไม้โชยมาตามลมอีกด้วย ช่วงเวลาที่ควรจะมาสวนแห่งนี้คือปลายฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็ยังสามารถมาชมได้ในทุกฤดู มีสถานที่สำหรับถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขา Izumigatake จึงทำให้สามารถเห็นแม่น้ำได้อีกด้วย หากคุณเดินทางมายังจังหวัดมิยางิเราก็อยากจะแนะนำสวนพฤกษศาสตร์อิซุมิให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยากพักผ่อน และชอบบรรยากาศชิวๆ Google MAP Izumi Botanical Gardens cost：500 yen

เมือง Zaomachi ตั้งอยู่ที่ทางตอนใต้ของจังหวัดมิยางิ ที่เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งก็คือ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกนั่นเอง เมื่อมาถึง สิ่งแรกที่คุณเห็นคือ…กอริลล่า ไม่ใช่สุนัขจิ้งจอกนี่นา! ภายในหมู่บ้าน มีพื้นที่สำหรับเล่นกับสุนัขจิ้งจอก หากสุนัขจิ้งจอกมีท่าทีที่ระแวงหรือดูเหนื่อยๆ คุณก็ไม่ควรเข้าใกล้หรือพยายามบังคับให้มันมาเล่นด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและสุนัขจิ้งจอก มีสุนัขจิ้งจอกมากถึง 6 ชนิด และนับเป็นจำนวนมากถึง 100 ตัว บางตัวถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่หายากอีกด้วย จากที่ดูแล้วสุนัขจิ้งจอกที่นี่นั้นค่อนข้างเชื่อง จึงสามารถถ่ายรูปได้โดยง่าย คุณยังสามารถให้อาหารสุนัขจิ้งจอกได้อีกด้วย ก่อนที่จะออกจากที่นี่ หากคุณประสงค์ที่จะเดินทางกลับโดยแท็กซี่ก็สามารถบอกพนักงานได้ พนักงานที่นี่จะคอยบริการเรียกแท็กซี่ให้คุณ สรุป การเดินทางมาที่หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกจากสถานีรถไฟเซนไดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์ หากคุณมาที่จังหวัดมิยางิก็อย่าลืมมาดูมาเล่นกับสุนัขจิ้งจอกที่แสนน่ารักเหล่านี้ละ! time：09:00〜17:00 365 days open Wi-Fi cost：1000円 tell：0224-24-8812