jajamen-1024x576อาหาร(Food)

จาจาเมง คืออะไร?

ในบทความนี้เราจะพูดถึงเมนูดังจากจังหวัดอิวาเตะ ซึ่งก็คือ จาจาเมง นั่นเอง ร้าน Pylon ตั้งอยู่ในเมืองโมริโอกะ ถึงเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอิวาเตะ เมื่อเรามาถึงที่นี่เราก็สั่ง จาจาเมง ทันที ลักษณะของเส้นจะมีขนาดหนา มีแตงกวากับเนื้อบดมาให้กินคู่กันอีกด้วย สามารถปรุงรสเองได้ตามใจชอบ ตัวจาจาเมงมีรสชาติที่อร่อยอยู่แล้ว แต่คุณยังสามารถเติมพริกได้ตามใจชอบ ควรกินให้เหลือนิดหน่อย ธรรมเนียมการกิน จาจาเมง คือ ควรจะเหลือซุปไว้เล็กน้อยบนก้นชามซึ่งนี่อาจจะฟังดูแปลกอย่างมาก แต่ถือเป็นการกินที่สุภาพของตามแบบฉบับเมืองโมริโอกะ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่าควรจะกิน จาจาเมง อย่างไร เราก็ไม่รีรอที่กินจาจาเมง เมื่อได้ลิ้มรสแล้วก็รู้สึกว่าหยุดกินไม่ได้จริงๆ เมื่อคุณมาที่จังหวัดอิวาเตะ เราก็แนะนำให้พวกคุณมาลองทาน จาจาเมงกันดู ซักครั้งก็ยังดี ไม่แน่ก็อาจจะมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ตามมาก็ได้นะ

牛タンอาหาร(Food)

ของขึ้นชื่อแห่งเมืองเซนได ‘ลิ้นวัว’

ของขึ้นชื่อที่สุดของเมืองเซนไดคือ ลิ้นวัว มีการบริโภคลิ้นวัวมากถึง 5000 ตันต่อปี ในบทความนี้เราจะมาเล่าถึงปรวัติของลิ้นวัวแห่งเมืองเซนไดได้ท่านได้รับทราบกัน ประวัติ ในช่วงปี 1948 ระวห่างการฟื้นฟูหลังสงครามโลกครั้งที่สอง นายชิโร่ ได้ก่อตั้งร้าน “Tasuke Gyutan” ในเมืองเซนได โดยในช่วงนี้มีร้านยากิโทริ(ไก่ย่าง) ที่กำลังฮิตกันอย่างมาก ดังนั้นนายชิโร่จึงได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ต่างออกไป โดยคนอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ ซึ่งก็คือ ลิ้นวัว เอกลักษณ์ของลิ้นวัว สิ่งที่พิเศษของลิ้นวัวเซนได คือความหนา ลิ้นวัวที่พบในที่อื่นๆของญี่ปุ่นนั้นโดยมากจะบาง อย่างไรก็ตามลิ้นวัวของเซนไดจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์คือความเหนียวและนุ่ม อีกทั้งยังถูกหมักด้วยซอสและเกลืออย่างดีอีกด้วย วิวัฒนาการของเมนูลิ้นวัว ลิ้นวัวยังถูกนำไปประยุกต์กับเมนูอื่นอีกด้วย เช่น ซุปลิ้นวัว แกงกระหรี่ลิ้นวัว นอกจากนี้แล้วยังมีเมนูที่ทันสมัยขึ้นไปอีกก็คือ แฮมเบอร์เกอร์ลิ้นวัว ลิ้นวัวยังถือเป็นของฝากประจำเมืองเซนไดอีกด้วย สรุป เจ้าของร้านอาหารลิ้นวัวจำนวนมากพยายามที่จะพัฒนาปรับปรุงเมนูลิ้นวัวเพื่อให้เป็นที่สนใจของลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวที่เมืองเซนได Pictures:Gyutan Tasuke & Date no Gyutan

20160621_1-300x169อาหาร(Food)

ตะลุยเทศกาลเกี๊ยวซ่าที่เซนได

หลังจากงานประชุม G7 ที่ผ่านไปไม่นาน ก็มีงานเทศกาลเกี๊ยวซ่าที่หอประชุมนานาชาติของเมืองเซนได พวกเราได้ตามรอยกลิ่นที่แสนหอมของน้ำมันงาและกลิ่นข้าวที่ปนฟุ้งมากับอากาศ ในปีนี้กลุ่ม G10 หรือสมาคมเกี๊ยวซ่าได้มาจัดงานท ณ เมืองเซนได มีคนจำนวนมากถึง 30,000 คน ผู้ร่วมงานในครั้งนี้ ก็คงจะทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้นอกจากกิน กินและกิน เพราะว่ามีร้านค้าจำนวนมากทยอยทอดเกี๊ยวซ่าสดๆให้ผู้ชมงานได้ชิมกัน อีกทั้งยังมีเกี๊ยวซ่าชนิดอื่นๆจากทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นมาให้ได้รับชมกันอีกด้วย ยังมีราเมงอีกด้วยนะ โดยปกติแล้ว เกี๊ยวซ่านั้นถือเป็นเมนูรองที่ต้องสั่งมากินคู่กับราเมง แต่ในวันนี้เกี๊ยวซ่าถือเป็นจานหลักอย่างเห็นได้ชัด ใครๆก็ชอบเกี๊ยวซ่า ยิ่งกินคู่กับเบียร์สดๆแล้วยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก เกี๊ยวซ่าของเมืองเซนได เกี๊ยวซ่าของเมืองเซนไดจะมีเอกลักษณ์อยู่ที่แป้งที่เป็นสีเขียว มีชื่อเรียกว่า ยูกินะเกี๊ยวซ่า ซึ่งจะมีสีที่ต่างจากเกี๊ยวซ่าทั่วไป นอกจากนี้แล้วรสชาติยังไม่เหมือนอีกด้วย เพราะว่ามีส่วนผสมของผักที่ปลูกในเซนได ถึงแม้ว่าจะมีเกี๊ยวซ่าอยู่หลายสำนักในญี่ปุ่น ร้านเกี๊ยวซ่าในเซนไดก็ได้เพิ่มจำนวนขึ้นเช่นกันตั้งแต่ปี 2012 เกี๊ยวซ่าของเมืองฟุกุชิมะ ลักษณะเด่นของเกี๊ยวซ่าฟุกุชิมะคือ จะมีขั้นตอนการทอดที่แปลกออกไป โดยเกี๊ยวซ่าจะถูกย่างบนกระทะขนาดยักษ์ เกี๊ยวซ่าชนิดนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เกี๊ยวซ่าจานร่อน กระทะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 เซนติเมตร สามารถทอดเกี๊ยวซ่า 650 ชิ้นได้ในครั้งเดียว ใหญ่ถึงขนาดที่ต้องใช้คน 4 คนมาช่วยกันยกกันเลยทีเดียว สรุป ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือพยายามที่จะปรับเปลี่ยนอาหารในรูปแบบเดิมๆให้ต่างออกไป เพียงแค่นำความคิดสร้างสรรค์ที่มีมาแต่งเติมให้กับอาหารที่ดูธรรมดา จนกลายเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา อย่างเช่น เกี๊ยวซ่าที่ได้เห็นกันในวันนี้…

1456295348347-768x1024วัฒนธรรม(Culture)

หัตถกรรมดั้งเดิมของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เนื่องจากมีคนที่ยังไม่รู้จักเกี่ยวกับงานหัตถกรรมของภูมิภาคโทโฮคุอยู่ ครั้งนี้เราจึงนำเสนองานหัตถกรรมให้ได้ทราบกัน ร้านปั้นโทโฮคุโคเก ร้านโทโฮคุโคเก ถือเป็นตัวแทนของสังคโลกปั้นเล็กๆในเมืองเซ็นได มีผลิตภัณฑ์ดินเผามากมายอาทิ ชาม ถ้วย รวมถึงปากกา การลงสีเครื่องดินผาและฝีมือของช่างปั้นถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเลยทีเดียว งานสังคโลกของเซ็นได เมื่อเรามองมาที่เครื่องสังคโลกชุดนี้ทำให้รู้สึกได้เหมือนกับมองท้องฟ้าในยามค่ำคืน ราวกับสามารถเปลี่ยนสีได้ตามการหักเหของแสง ดีไซน์ทันสมัย ลายที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมนั้นทำได้โดยใช้เทคนิคพิเศษก็คือ การใช้ผงเงินและสีที่หลากหลาย โดยลายที่ทันสมัยนั้นจะถูกสร้างขึ้นโดยมีงานดั้งเดิมเป็นแม่แบบ มุ่งมั่นและทุ่มเท ขณะนี้ นักปั้นเหล่านี้กำลังนำไอเดียเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะมาใช้อีกด้วยเพื่อที่จะสร้างลายเอกลักษณ์ที่สามารถทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จุดประสงค์หลักคือเพื่อนที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น ธีม “Touch Classic” ซึ่งเป็นธีมริเริ่มของ “Cool Japan” สรุป งานสังคโลกถือเป็นงานที่มีประวัติเก่าแก่เป็นเวลากว่า 100 ปีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าลวดลายจะดูเก่าแก่ ช่างปั้นเหล่านี้ก็พยายามจะแปลงโฉมเครื่องสังคโลกเหล่านี้ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น คุณเองก็ลองมาที่เซ้นได มาลองเยี่ยมชมร้านปั้น Tohoku Kogei ดูสิ! Tohoku Kogei HP

4-300x169สิ่งที่น่าสนใจ(Attraction)

หน้าร้อนของโทโฮคุ: นากาชิโซเมง

โซเมง เป็นบะหมี่ที่ทำจากแป้งสาลี ต้นดำเนิดนั้นมาจากประเทศจีน ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.3 มิลลิเมตร แต่ทว่าคนญี่ปุ่นนั้นมีวิธีการกินที่แปลก ในช่วงหน้าร้อนตั้งแต่เด็กจนถึงผ้ใหญ่เพลิดเพลินไปกับการกินโซเมงเย็น เพราะว่าสามารถทำเสร็จได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ในครั้งนี้เราจะโฟกัสไปที่โซเมงยี่ห้อ นากาชิ โซเมงของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คนส่วนมากจะได้ยินชื่อเสียงของนากาชิโซเมงว่ามาจากภาคตะวันตกของญี่ปุ่น แต่ยังมีพื้นที่อื่นที่ผลิตโซเมงชนิดนี้อีกเช่นกันซึ่งก็คือภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกเช่นกัน อาทิ “Inaniwa Somen” (อาคิตะ), “Shiroishi Umen” (มิยางิ), “Tamagomen”(อิวาเตะ), “Miharu Somen” (ฟุกุชิมะ) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนที่มีชื่อเสียงของ Nagashi somen ของญี่ปุ่น แต่ละแบรนก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองรวมถึงความต่างของวัตถุดิบที่ใช้อีกด้วย รางไม้ไผ่ โดยปกติแล้วรางไม้ไผ่ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดงาน Nagashi Somen อย่างไรก็ตามรางที่ทำมาจากพลาสติกหรือกระดาษรีไซเคิลจากกล่องนม ก็ถูกนำมาใช้แทนรางไม้ไผ่เนื่องจากมีความสะดวกกว่า โซเมงบนรางน้ำ ถึงแม้งานนี้จะถูกเรียกว่า Nagashi Somen ก็ใช่ว่าจะมีแต่โซเมงที่ไหลมาบนรางน้ำ ยังมีผักชนิดอื่นๆอีกเช่น มะเขือเทศ แตงกวา กระเจี๊ยบเขียวอีกด้วย สำหรับของหวานก็จะเป็น เชอรี่ แตงโม และขนมญี่ปุ่นอื่นๆอีกเช่นกัน เนื่องจากไม่มีกฏสำหรับงานนี้ จึงทำให้สามารถส่งอาหารชนิดใดก็ได้ลงบนราง สรุป นากาชิโซเมงถือเป็นอาหารที่เหมาะกับหน้าร้อยเป็นทีสุด ทุกคนสามารถเพลิดเพลินสนุกสนานได้ในงานนี้ คุณเองก็ลองมาทานดูสิ

S_4440654815040-1024x768อาหาร(Food)

ร้านโซบะชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ อิจิอัน

เมืองเทนโดตั้งอยู่ในเขตยามากาตะ มีชื่อเสียงในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนและโชกิ(หมากรุกญี่ปุ่น) ที่เมืองเทนโดมีร้านโซบะแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยคนที่มาต่อคิวรอรับประทาน ร้านนี้มีชื่อว่า อิจิอัน สัมผัสความเป็นญี่ปุ่น ภายในร้านอาหารนั้นถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ทำให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจะนั่งบนเสื่อทาทามิ และแขกประจำก็จะนั่งอยู่บริเวณเคาเตอร์ ทำให้รู้สึกครึกครื้น อีกทั้งพนักงานยังเป็นกันเองอีกด้วย โซบะที่ไม่ธรรมดา ครั้งเราเราลองสั่งโซบะและอาหารจีนมาลองทานดู อาหารแต่ละจานถูกตกแต่งอย่างสวยงามและก็อร่อยมาก เราอยากให้คุณมาลองกินดู นอกจากนี้แล้วยังมีเมนูอื่นอีกเป็นจำนวนมาก แค่ดูเมนูยังทำให้รู้สึกหิวเลย สรุป ในระหว่างที่เรารอคิว เราก็เจอกับคนที่เดินทางมาจากไซตามะเพื่อมากินโซบะที่ร้านนี้ ร้านนี้เป็นที่รู้จักของคอโซบะเป็นอย่างดี คุณเองก็ลองมารับประทานที่ร้านโซะบะแห่งนี้ดูสิ! Google Map

東北大จุดเด่น(Feature)

ชื่อเสียงอันโด่งดังของมหาวิทยาลัยโทโฮคุ

มหาวิทยาลัยโทโฮคุได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1907 เป็นมหาลัยแห่งที่สามของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นมหาลัยชั้นนำเลยทีเดียว ที่มหาลัยห่งนี้มีนักศึกษาชาวต่างชาติจำนวน 1600 คน เป็นมหาลัยที่ใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่นอีกด้วย นี่คือเหตุผลสามอย่างที่ทำให้มหาลัยที่เป็นที่สนใจของนักศึกษาชาวต่างชาติ มีงานวิจัยสูง ในปี 1992 Albert Einstein ได้มาเยี่ยมชมที่มหาลัยแห่งนี้และได้กล่าวว่ามหาลัยโทโฮคุนั้นถือได้ว่าเป็นคู่แข่งของมหาลัยของเขาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีoบุคลากรบางท่านของมหาลัยแห่งนี้ได้คว้ารางวัล Nobel อีกด้วย อาทิ ศาตราจารย์Tanaka Kouichi ได้รับรางวัลในสาขาวิทยาศาสตร์ ประวัติของมหาลัยแห่งนี้เก่าแก่มากมีบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเยี่ยมชมมหาลัยแห่งนี้ เช่น Lu Xun, Jiang Zemin และ Einstein นี่เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งว่ามหาลัยโทโฮคุเป็นมหาลัยที่ให้ความสำคัญกับงานวิจัยอย่างมาก ห้องวิจัยที่ดี ทุกๆปีมหาลัยแห่งนี้จะได้รับทุนการวิจัยจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นจำนวน 50 ล้านเย่น ซื้อทางมหาลัยจะนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาอาคารและสร้างสถาบันวิจัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนมากมาทำงานวิจัยที่นี่อีกด้วย เมืองเซนได เซ็นไดถือเป็นเมืองที่เหมาะแก่การศึกษาและการวิจัย เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบและมีวิวสวยงาม ตัวมหาลัยอยู่ติดกับตัวเมืองจึงทำให้เดินทางสะดวก ที่ตัวเมืองมีร้านค้ามากมายทำให้นักศึกษาสามารถมาผ่อนคลายที่นี่ได้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกได้แก่ Akiu Onsen resort และ Matsushima ซึ่งยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเซ็นไดอีกด้วย สรุป สำหรับนักศึกษาที่สนใจอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศของเมืองเซ็นไดและศึกษาที่นี่ พวกเรายินดีต้อนรับเสมอ ตำนาน 100 ปี,…

Kumamotoจุดเด่น(Feature)

คุมาโมโต้, หนึ่งเดือนครึ่งหลังจากเหตุแผ่นดินไหว

บทนำ “ถึงแม้ว่าโปรเจ็ค Tohoku 365 จะให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภูมิภาติตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น จุดประสงค์ของบทความนี้คือให้ความสำคัญเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจังหวัดคุมาโมโต้”(มิ.ย. 1, 2016 – มิ.ย. 3, 2016) เราขอแสดงความเสียใจกับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ หลังจากที่เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนครึ่ง เราอยากทราบว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดคุมาโมโต้เป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นบทความนี้จะอัพเดทข้อมูลของเมืองคุมาโมโต้หากมีท่านใดที่ประสงค์จะเดินทางไปยังจังหวัดนี้” มุมมองจากด้านบน ภาพนี้ได้ถูกถ่ายก่อนที่ลงจอดที่สนามบินคุมาโมโต้ หลังคาและแผ่นพลาสติกสีน้ำเงินที่ปิดหลังคาบ้านได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว น้ำตกนาเบกะ สถานที่แรหที่เราเดินทางไปคือน้ำตกนาเบกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโอกุนิมาจิ น้ำตกมีความสูงประมาณ 10 เมตรและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เคราะห์ดีที่น้ำตกแห่งนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว MAP หุบเขาทากาชิโฮะ สถานที่ทัศนาจรที่สำคัญอีกแห่งคือ ทากาชิโฮะ ในเมืองมิยาซากิ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินคุมาโมโต้ นอกจากนี้ที่หุบเขานี้ยังมีน้ำตกมานาอิอีกด้วย และที่นี้ก็ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อีกเช่นกัน MAP ชินเซ็น ที่โรงแรมนี้มีสวนญี่ปุ่นที่สวยมาก และพนักงานก็ยังเป็นกันเองอีกด้วย สะพานโมมิโนะกิ พวกเรายังเดินทางมาที่ อิซุมิมาจิ ที่เมืองยาซึชิโระ ถึงแม้ว่าจะมีแผ่นดินไหวแต่สะพานก็ยังคงแข็งแรงปลอดภัยอยู่ คุณสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศธรรมชาติได้ที่นี่   สะพานอุเมะโนะคิโทโดโรกิ น้ำตกชิรามิซุ น้ำที่นี่ใสมาก ! MAP พระอาทิตย์ตกที่ภูเขาอะโซ คุณสามารถเห็นวิวที่สวยงามได้ที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนพระอาทิตย์ตก วิวจากที่นี่ทำให้ยากที่จะเชื่อว่าพึ่งจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง เรกันโต…

佐々木さん農家1วัฒนธรรม(Culture)

ทำไมข้าวที่จังหวัดมิยางิถึงอร่อย? บทสัมภาษณ์จากนักศึกษาปริญญาโทจากลอนดอน

ทุกๆปี จังหวัเมิยางิจะผลิตข้าวเป็นจำนวน 40,000 ตัน โดยมีบริษัทผู้ผลิตรายหลักได้แก่ Hitomebore, Sasanishiki และ Manamusume ข้าวตรา Hitomebore ถือได้ว่าเป็นข้าวเกรด A ที่ได้รับการยอมรับจากครัวญี่ปุ่นเป้ฯเวลา 12 ปี เคล็ดลับการประสบความสำเร็จจะได้นำมาเล่าดังต่อไปนี้ โดยจะเป็นการสัมภาษณ์บริษัทโดยนักศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิชาเกษตรกรรม เหตุผลที่ 1: สภาพแวดล้อมที่ดี จังหวัเมิยางิ มีชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงาม มีแม่น้ำและลำธารมากถึง 80 แห่ง ซึ่งหมายความว่าดินที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก เมื่อ 400 ปีที่แล้ว ผู้แกครองเมือง ท่านดาเตะ มาซามูเนะ ได้สร้างที่นาว่าเป็นจำนวนมาก จึงทำให้สามารถปลูกข้าวที่อร่อยและมีคุณภาพได้ เหตุผลที่ 2: อุณหภูมิและความชื้น การจะปลูกข้าวให้อร่อยนั้น อุณหภูมิและความชื้นถือเป็นปัจจัยสำคคัญ โดยจะต้องควบคุมให้อยู่ในระดับมาตรฐาน น้ำในแปลงนาจะถูกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ ภายหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ข้าวจะถูกเก็บอยู่ในที่แห้งและถูกควบคุมอุณหภูมิ หลังจากนั้นจะถูกบรรจุใส่ถุงสูญญากาศ ซึ่งทั้งสามปัจจัยนี้ทำให้ผลิตข้าวที่มีคุณภาพออกมาได้ เหตุผลที่ 3: ความทุ่มเทและเอาใจใส่ พวกเราได้สัมภาษณ์คุณซาซากิ ซึ่งเป็นชาวนารุ่นที่ 10 และได้ดูแลแปลงนาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว…

るーぷる仙台8ทริป(Day Trips)

เที่ยวชมเมือง Sendai โดยรถ Loople Bus

เมืองเซ็นไดในช่วงพฤษภาคมนั้นจะมีความสวยงามเป็นอย่างมากเพราะว่าจะสามารถเห็นใบไม้สีเขียวมากมายทั่วท้องถนนจนได้ชื่อว่าเป็น เมืองปราสาทสีเขียว การเดินทางชมรอบเมืองเซ็นไดนั้นวิธีแนะนำคือการโดยทางโดยใช้รถ Sendai loople bus โดยตัวรถจะมีลักษณะเป็นรถโบราณในอดีต คุณสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟเซ็นไดแบบรายวันได้ และยังมีข้อมูลการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย สถานที่แรกที่เราไปคือ Zuihoden ซุยโฮเด็นเป็นอนุสรณ์สถานที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังการเสียชีวิตของขุนนางชื่อดังในอดีต ดาเตะ มาซามุเนะ ซึ่งเป็นผู้ปกครองพื้นที่เซ็นได ทางเดินเข้ามาในซุยโฮเด็นปกคลุมไปด้วยต้นซีสองข้างทาง ทำให้รู้สึกได้ถึงบรรยากาศผ่อนคลายตามธรรมชาติ คุณยังสามารถพบไกด์อาสาที่คอยให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่ไกด์อาสาพูดภาษาญี่ปุ่นได้เพียงภาษาเดียว สถานที่ต่อไปคือ ปราสาทเซ็นได ถูกสร้างขึ้นโดย ท่านดาเตะ มาซามูเนะ ในปี 1601 แต่น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ถูกทำลายโดยไฟไหม้ แต่คุณก็ยังสามารถมองเห็นวิวของเมืองเซ้นไดไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก มีร้านค้าบางส่วนตั้งอยู่ในบริเวณรอบๆปราสาทอีกด้วย ซึ่งของขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาดคือ Zunda shake หรือ ถั่วแระปั่นนั่นเอง สถานที่สุดท้ายคือ สมบัติของชาติ หรือ Osaki Hachiman Shrine ในปี 1952 ได้ถูกตั้งว่าเป็นหนึ่งในสมบัติที่สำคัญของญี่ปุ่น ตัววัดมีรูปลักษณ์สวยงาม รวมถึงบรรยากาศโดยรอบ จึงทำให้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน นอกจากนี้แล้วในเมืองเซ็นไดยังมีสถานที่อื่นๆอีกมากมายที่คุณสามารถจะสัมผัสถึงวัฒนธรรมและกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นได้อีกด้วย หากคุณมีเวลาว่างก็ลองแวะมาดูสิ มาลองนั่ง Loople Bus กัน ! กำหนดการเดินทาง 13:00…

shinkansenการเข้าถึง(Access)

นั่งรถไฟทัวร์รอบโทโฮคุ (ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

การเดินทางเที่ยวรอบภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้นมีหลายวิธี แต่ครั้งนี้เราแนะนำให้คุณลองเดินทางโดยตั๋ว JR EAST PASS สำหรับนักท่องเที่ยว *ต้องบอกก่อนว่าตั๋วชนิดนี้ซื้อได้เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งตั๋วชนิดอื่นก็มีอยู่เช่นกัน เช่น JR Rail Pass แต่ว่าจะต้องซื้อก่อนที่จะเดินทางมาญี่ปุ่น อิสระ เมื่อได้รับตั๋ว ตั๋วจะมีอายุ 14 วัน และมีอายุการใช้งานต่อเนื่อง 5 วัน ซึ่งจะสามารถใช้ได้กับรถไฟทุกประเภทรวมถึงชินคันเซ็น ถูก หากเดินทางจากโตเกียวมายังเซ็นได จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 เยน เพียงแค่ตั๋วเที่ยวเดียว แต่ว่า JR EAST PASS มีราคาเพียงแค่ 20,000 เยน สำหรับผ็ใหญ่ และหากซื้อตั๋วนี้นอกประทเศญี่ปุ่นจะมีราคาเพยงแค่ 19,000 เยน ครอบคลุมเพื้นที่ ตั๋วนี้สามารถใช้ได้ครอบคลุมสถานีรถไฟ JR EAST ทุกแห่งตั้งแต่จังหวัดอาโอโมริไปจนถึงชิซุโอกะ ทั้งนี้คุณสามารถดูรายระเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารและสถานีในเว็บด้านล่างได้เลย http://www.jreast.co.jp/e/eastpass/ เราแนะนำให้คุณซื้อตั๋ว JR EAST PASS เพราะว่ามีความคุ้มค่ามาก จ่ายแค่ราคาเดียวก็สามารถเดินทางครอบคลุมทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลย

oomagariวัฒนธรรม(Culture)

ดอกไม้ไฟโอมะการิ

ที่ใจกลางจังหวัดอาคิตะ มีเมืองไดเซนตั้งอยู่ ซึ่งที่เมืองนี้จะมีงานประกวดดอกไม้ไฟถือได้ว่าเป็นงานที่ใหญ่ระดับประเทศเลยทีเดียว งานประกวดดอกไมม้ไฟเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 ช่างทำดอกไม้ไฟได้นำดอกไม้ไฟที่ดูซับซ้อนที่สุด มาประลองกันในงานนี้เพื่อที่จะได้ตัดสินว่าใครเป็นช่างทำดอกไม้ไฟที่เก่งที่สุด ในงานแข่งขันปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกก็ยังมีคนมากมายมารอดูชมงานดอกไม้ไฟเป็นจำนวนมาก คาดว่าผู้คนในเมืองไดเซนในตอนกลางคืนนั้นมีประมาณ 40,000 ถึง 80,000 คนเลยทีเยว การจัดแสดงดอกไม้ไฟนั้นจะสอดคล้องไปกับเพลง ซึ่งจะทำให้ได้รับความสุนทรีย์มากขึ้นไปอีกในระหว่างการรับชม ถือว่าเป็นงานอีเวนท์ที่ไม่ควรพลาดอีกงานเลยทีเดียว ข้อแนะนำ สถานที่ * หากต้องการจะนั่งที่สแตนใหญ่ คุณจะต้องซื้อตั๋วจากเว็บไซต์ของงานก่อน และอย่าลืมว่าตั๋วนั้นขายในระยะเวลาที่จำกัด การจราจร เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาดูงานดอกไม้ไฟที่นี่ เราจึงแนะนำให้คุณเดินทางร่วมกับคณะทัวร์ เพราะว่าการจราจรจะติดขัดมาก หากคุณอยากได้ข้อมูลเพิ่มอีกเกียวกับงานนี้ คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บเพจของ TripAdvisor™

20160521_iroha02-300x169ทริป(Day Trips)

หมู่บ้านฟุรุคาวะ [Iroha ราเมงสูตรคุณยาย]

หมู้บ้านฟุรุคาวะตั้งอยู่ทางเหนือของจังหวัดมิยางิ รวมถึงสถานีรถไฟฟุรุคาวะซึ่งมีรถไฟชิงคันเซ็นแล่นผ่านอีกด้วย และการเดินทางมาที่นี่นั้นถือว่าสะดวกมากๆ เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อนนารุโกะ และยีงมีรีสอร์ทอีกด้วย จึงทำให้สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงไหนก็ได้ ร้านอาหารที่นี่ให้บริการกับคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้อีกทั้งยังมีชื่อเสียงอีกด้วย ตะลึงไปกับบรรยากาศ เมื่อเดินเข้ามาในร้านจะรู้สึกได้ว่าเหมือนย้อนยุคเข้าไปอยู่ในสมัยโชวะเลยทีเดียว เพราะว่าสีของกำแพง ผู้คนรับประทานอาหาร รวมถึงกลิ่นอายที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ ปันโต๊ะวิถีชนบท ที่ร้านนี้เป็นเรื่องปกติที่จะต้องนั่งร่วมกับลูกค้าท่านอื่นๆที่มารับประทานอาหารที่ร้านแห่งนี้โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามมันก็ให้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ ในระหว่างที่รออาหาร คุณก็สามารถศึกษาเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้หรือดูเมนูที่น่าสนใจไปก่อนได้ เมนูแนะนำ เมนูเด็ดของร้านนี้คือ จูกะโซบะและราเมงอื่นๆ ซุปกระดูกไก่ของที่นี่ถือว่าไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังสามารถสั่งทอปปิ้งมาโรยหน้าเพิ่มได้อีกเช่น หมูชาชูและหัวหอม ปริมาณนั้นถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว เมนู Chuka Soba(Ramen) 670yen Half size 420yen Katsu Don 720yen Fried rice 720yen สรุป ถ้าคุณอยากจะสัมผัสราเมงแบบต้นตำรับและโซบะในจังหวัดมิยางิ รวมถึงยากจะสัมผัสบรรยากาศแบบเก่าๆ เราก็แนะนำให้คุณมาลองสัมผัสดูที่ Iroha ในเมืองฟุรุคาวะ คุณยายยังรอคอยนักเดินทางทุกท่านอยู่นะครับ Restaurant IROHA Phone Number 0229-22-0612 Open 11:00~18:00 Google map

ashnaวัฒนธรรม(Culture)

เที่ยวบ่อน้ำพุร้อน Aizu Onsen Ryokan

เขต ไอซุ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุชิมะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะแก่การชมซากุระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนซุรุกาโจ คนส่วนมากที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคิตะวันออกล้วนเคยมาที่สวนแห่งนี้โดยการทัศนศึกษาเป็นส่วนใหญ่ น่าเสียดายที่ภูมิภาคนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินักเท่าไร ฟุคุชิมะนับเป็นเมืองที่มีออนเซ็นมากที่สุดถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆอีกหกเมือง ที่เมืองนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของ ร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่น ออนเซ็น เรียวกัง สาเก และหิมะในช่วงฤดูหนาว ในการเดินทางครั้งนี้เราแวะมาที่ Higashi-Yama Onsen และพักที่โรงแรม Ashina ที่โรงแรมแห่งนี้ทุกคนได้การรับต้อนรับเป็นอย่างดี เมื่อคุณมาถึง คุณจะสัมผัสได้ถึงการต้อนรับและบริการที่อบอุ่นของพนักงานโรงแรม พนักงานที่นี่จะให้การช่วยเหลือในเรื่องของการเช็คอิน อีกทั้งยังมีชาร้อนๆมาเสริฟให้อีกด้วย ซึ่งในขณะนี้พนักงานทุกคนกำลังถูกฝึกให้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวในภษาอังกฤษ คุณอากิ นัมบุ ผู้ซึ่งเป้นผู้สืบทอดกิจการในอนาคตกำลังพัฒนาปรับปรุงโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาพักในอนาคต รวมถึงจะเพิ่มระบบ wifi โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย บ่อน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อนในโรงแรม Ashina นั้นมีการเปลี่ยนน้ำใหม่อยู่ตลอดเวล ซึ่งบ่อน้ำร้อนแห่งนี้เปิดให้บริการเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว นับว่าหายากมากสำหรับบริการนี้ นอกจากนี้ภายในบ่อน้ำร้อนยังมีบ่อให้เลือกได้สองแบบคือ บ่อกลางแจ้ง และบ่อในร่ม อาหาร การมาเที่ยวที่ Ashina onsen ในครั้งนี้ทำให้รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายบรรยากาศแบบญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง อาหารที่โรงแรมนี้ถูกเตรียมอย่างพิถีพิถัน และทุกคนก็ดื่มเหล้าสาเกด้วยกันอย่างครึกครื้น อาหารพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อของ ไอซุ คือ เนื้อม้าซึ่งอาจจะดูแปลกสำหรับชาวต่างชาติ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะลอง ภาพรวม…

よねざわ4-300x169ทริป(Day Trips)

เที่ยวเมืองโยเนซาวะที่ยามากาตะ

วันนี้พวกเราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น แต่ทว่าที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่หนาวที่สุดของญี่ปุ่นและยังมีอะไรหลายอย่างที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังที่แห่งนี้ ที่แห่งนี้คือเมืองโยเนซาวะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ยามากาตะ เดินทางออกจากสถานีรถไฟเซ็นไดไปยังเมืองยามากาตะ พวกเรายังสัมผัสได้ถึงอากาศหนาวในช่วงเดือนกุมภา พวกเรานั่งรถบัสไปยังเมืองโยเนซาวะตอน 8:40น. เนื่องจากมีรถบัสเป็นจำนวนมากจนอาจจะทำให้สับสน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการขึ้นรถบัสให้ดี ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง เราก็มาถึงศาบเจ้าคามิสุกิ ในครั้งนี้หิมะให้ถมกันหนาประมาณ 30 เซนติเมตรปกคลุมไปทั่วท้องถนนทำให้อากาศของที่นี่หนาวกว่าเซ็นไดอีก ใช้เวลาในการเดินประมาณ 10 นาที ในตอนแรกพวกเราเดินไปยัง “Suzugen Orimono” มาชมการสาธิตการย้อมสีผ้าเช็ดหน้าโดยช่างทอของเมืองนี้ ภายนอกอาคารเป็นบ้านสไลต์ญี่ปุ่นโบราณ และข้างในนั้นมีเครื่องทอผ้าแบบญี่ปุ่นอีกด้วย รับเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เห็นเครื่องจักรชนิดนี้ พวกเราได้ลองย้อมผ้าดู ซึ่งกว่าจะมาเป็นผ้าเช็ดหน้าที่สวยงามนั้นนับว่ายากเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ทีดีสำหรับพวกเราทุกคน เราใช้เวลาไปประมาณ 30 นาทีกับการย้อมผ้า นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถทดลองสวมเครื่องแต่งกายญี่ปุ่นได้อีกด้วย สีสันสดใส ใส่แล้วดูดีมาก เพียงแค่ลองใส่ก็นับเป็นความทรงจำที่ดีเลยทีเดียว หลังจากนั้นเราเดินทางต่อไปยัง Denkoku no mori ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการภายในอาคาร มีอุปกรณ์ที่คนในอดีตใช้กันตั้งแต่สมัย Sengoku รวมถึงปืนใหญ่จำลองสำหรับทดลองเล่น และที่ทางเข้ามีการแสดงรำแบบญี่ปุ่น หรือ โนะ อีกด้วย หลังจากนั้นเราเดินทางไปยังหมู่บ้าน Kamakura โดยรสบัสและรับประทานอาหารกลางวันที่นั่น พวกเราตัดสินใจเดินทางไปยัง Asahiya Ryokan แต่ว่าที่นี่ยังมีโรมแรมอื่นๆอีกเช่นกัน เราขอแนะนำให้คุณลองไปสำรวจหลายๆที่ดู…

ishinomaki_6ทริป(Day Trips)

เดินทางมาเยือนอิชิโนะมากิกับทูต VISIT JAPAN

อิชิโนะมากิ ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิ ซึ่งกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและซึนามิในปี 2011 ในการเดินทางครั้งนี้เราได้เดินชมรอบๆเมืองและสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของเมืองนับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนาย Martin Barrow ทูตจาก VISIT JAPAN เป็นผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย การเดินทางมาอิโนะมากินั้นง่ายมากๆ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 50 นาทีจากสถานีรถไฟเซ็นได ซึ่งเป็นใจกลางภูมิภาคิตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ระหว่างทางคุณสามารถชมวิวสองข้างทางรถไฟได้อีกด้วย ที่สถานี่รถไฟอิชิโนะมากิคุณจะได้รับการต้อนรับจากเหล่าตัวการ์ตูนมากมาย ซึ่งเป็นผลงานของ “โชทาโร่ อิชิโนโมริ” ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ราชามังงะ” และพิพิธภัณฑ์ของเขาตั้งอยู่ในเมืองอิชิโนะมากิ เริ่มแรกเราเดินทางไปยัง HIBI-Shinbun ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่อง “หนังสือพมพ์ติดกำแพง” ภายหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2011 ชาวบ้านได้นำกระดาษขนาด B4 ที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาติดไว้บนกำแพงเป็นจำนวนมาก โดยความพยายามของชาวบ้านยังได้ถูกพูดถึงในรายงานของ Washington Post อีกด้วย หลังจากนั้นเราเดินทางต่อมาที่โรงเรียนประถมคาโดโนะวากิ ซึ่งได้รับความเสียหายจากซึนามิ ที่โรงเรียนนี้มีศาลเต้าไซโคจิ เป็นศาลเจ้าที่องค์ดาลัย ลามะเคยมาเยี่ยมและสวดภาวนา สวนสาธารณะฮิโยริยามะเป็นสถานที่ที่เจ้าชาย William เคยมาเยือนในอดีต คุณสามารถเห็นวิวทั้งหมดของเมืองอิชิโนะมากิได้ที่นี่ นอกจากนี้คุณยังจะได้เห็นสภาพการฟื้นฟูของเมืองอิชิโนะมากิหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย นาย Barrow ได้กล่าวว่า ในรายการทีวีชองญี่ปุ่นบอกว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่ที่เมืองนี้เลย แต่เมื่อเรามาถึงเมืองนี้เรายังเห็นผู้คนเดินอยู่ตามถนน รถยนต์และตึกบ้านเรือนอยู่บ้าง ภายหลังนาย…

魚市場記事用2-1024x683ทริป(Day Trips)

ทริปอิ่มท้องที่ Shiogama!

เริ่มต้นเดินทางจากสถานีรถไฟเซ็นไดไปยังเมืองชิโอกามะ ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี East Shiogama Station และเดินต่อไปยังทิศตะวันออกประมาณ10 นาที ชิโอกามะเป็นแหล่งขายอาหารทะเล และจะมีของสดใหม่มาขายทุกๆเช้า เมื่อคุณเดินเข้ามาจะพบกับอาหารทะเลนานาชนิด กลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยรนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ปลาทูน่าที่ Shiogama นับได้ว่าใหญ่ติดอันดับทอปของญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณสามารถซื้อปลาขนาดใหญ่ได้ในราคาถูก ถ้าโชคดี คุณอาจจะได้เห็นโชว์การผ่าปลาด้วย ที่น่าสนใจคือ คุณสามารถกินข้าวหน้าปลาดิบแบบสดๆที่ตลาดได้เลย ในราคาเพียงแค่ 1000 เยน เขาบอกว่า พอใจกับอาหารทะเลสดอร่อยมากๆ ทั้งกิน ทั้งชม ทั้งย่างปลา สนุกมากๆ ถ้าอยากกินปลาสดๆ แบบสดจากทะเลเราแนะนำให้คุณมาที่ตลาดปลา Shiogama!! หลังจากเที่ยวชมตลาด ซากุระที่ศาลเจ้า Shiogama สวยงามมากครับ พวกเราได้ไปลองชิมเบียร์ที่โรงผลิตเบียร์ชื่อดัง Kirin ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่นเลยทีเดียว 【กำหนดการเดินทาง】 8:00   สถานีรถไฟ Sendai → สถานี East Shiogama          …